"พริษฐ์" มอง พท. เป็นรัฐบาลตัวประกันกลุ่มทุน ขับเคลื่อนนโยบายลำบาก
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.67 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงฉายาของรัฐบาลที่สื่อทำเนียบรัฐบาลตั้งให้ ว่า ตนเห็นแล้ว แต่สิ่งที่ตนพยายามอธิบายมาตลอด ถึงสภาวะของรัฐบาลที่ตอนนี้เปรียบเสมือนมีพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลเป็นตัวประกัน พูดง่าย ๆ คือหากเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ตั้งขึ้นมาและดำรงอยู่ได้จากการสนับสนุนของคนบางกลุ่ม รัฐบาลชุดนี้ก็จะประสบกับความท้าทายเป็นอย่างมาก ในการผลักดันนโยบาย ที่อาจไปขัดประโยชน์กับกลุ่มดังกล่าว
นายพริษฐ์ ยังกล่าวว่า อย่างกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาลงมติให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และทำให้พรรคเหล่านี้มารวมตัวกันแต่แรกและยังเชื่อมโยงกับกองทัพ ก็จะเห็นถึงความท้าทายของรัฐบาลในการพยายามผลักดันการปฏิรูปกองทัพ และหากเชื่อว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคมีอิทธิพลทางความคิดกับ สว. ก็จะเห็นความท้าทายในการพยายามผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงปัญหาค่าไฟ หากเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ดำรงอยู่ได้ จากการสนับสนุนของกลุ่มทุนใหญ่บางส่วนในภาคพลังงาน ก็จะเห็นความท้าทายของรัฐบาลในการพยายามผลักดันนโยบาย ลดค่าไฟให้กับประชาชน อย่างล่าสุดกรณีสัญญารับซื้อ ไฟฟ้าสะอาดจำนวน 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งพรรคประชาชนได้ตั้งกระทู้ถามถึงความผิดปกติ และเรียกร้องให้ระงับสัญญารับซื้อไฟฟ้าดังกล่าว แต่รัฐบาลไม่ได้ตอบสนอง และการไม่ระงับสัญญาครั้งนี้อาจทำให้ค่าไฟของประชาชนแพงกว่าที่ควรจะเป็น
ส่วนที่ตัวแทนจากรัฐบาลออกมาบอกว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจ และนายกรัฐมนตรียังเป็นประธาน กพช. และเกินครึ่งในคณะเป็นรัฐมนตรี ที่กำหนดนโยบายของ กกพ. หากบอกนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการกำหนดทิศทางของ กพช. ก็เปรียบเสมือนว่านายกไม่มีอำนาจใน ครม.ชุดนี้แล้ว
เมื่อถามย้ำว่าชื่นชอบฉายาไหนของรัฐบาล นายพริษฐ์ กล่าวว่า สื่อก็พูดแทนใจประชาชนหลายส่วน จะตรงใจหรือไม่ให้ประชาชนตัดสิน ตนขอไม่ตัดสินใจแทนประชาชน แต่สาระสำคัญที่อยากจะพูดขณะนี้คือรัฐบาล อยู่ในสภาวะที่พรรคแกนนำนั้น อาจจะเป็นเสมือนตัวประกัน และทำให้การผลักดันนโยบายหลาย ๆ อย่างที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แต่อาจไปขัดกับบางกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตั้งขึ้นมาและการดำรงอยู่ของรัฐบาลมันขับเคลื่อนไปได้ยาก
เมื่อถามว่ามองสัมพันธภาพของรัฐบาลขณะนี้อย่างไร เพราะมีข่าวลือว่ารัฐบาลอาจตัดพรรคที่เป็นอีแอบออก นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าความเป็นเอกภาพของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ประชาชนตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง จากการลงมติที่ไม่เหมือนกันของทางพรรคร่วมรัฐบาล ก็เป็นสัญญาณหนึ่ง หากเปรียบเทียบเช่นพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ก็จะเห็นถึงความเห็นที่ไม่ตรงกันทั้งเรื่อง พ.ร.บ.ประชามติ เรื่อง พ.ร.บ.กลาโหม แม้กระทั่งเรื่องสัญญารับซื้อไฟฟ้า ที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทำหนังสือถึง กกพ. ว่าควรมีการระงับแต่นายกรัฐมนตรีไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด
จึงเกิดคำถามว่าตอนที่ตั้งกันขึ้นมา ตอนที่ร่วมเป็นรัฐบาล ได้คุยกันมากน้อยแค่ไหน ถึงวาระนโยบายที่จะผลักดันร่วมกัน แน่นอนว่าเราไม่ได้บอกว่าพรรคการเมืองจะต้องเห็นตรงกันทุกเรื่อง แต่เราคาดหวังว่าตอนที่คุณจับมือจัดตั้งรัฐบาล นโยบายที่ยังเห็นต่างกันอยู่ จะหาข้อยุติอย่างไรเพื่อผลักดันร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพเพื่อพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้เมื่อถามถึงภาพตีกอล์ฟระหว่างนายทักษิณและนายอนุทินจะสยบรอยร้าวได้หรือไม่นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราต้องการเห็นรัฐบาลที่เป็นเอกภาพ แต่ต้องเป็นเอกภาพเพื่อผลักดันนโยบาย ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เป็นเอกภาพเพื่อผลักดัน ประโยชน์ให้กับกลุ่มบางกลุ่มเท่านั้น