ตร.วิสามัญผัวหึงโหดยิงเมียดับ หนีกบดาน ยิงต่อสู้ ตร.ฮึดสู้ถูกยิงดับตามภรรยา ผบช.ภ1 เผยคนร้ายผัวโหดใช้ปืนออโตเมติกก๊อก ดัดแปลงต่อแม็กใส่กระสุน 30 นัด ยิงปะทะตำรวจ รู้สาเหตุแล้วสาเหตุมาจากรำคาญเมียหลอนหึงหวง หลังชุดปฏิบัติการคอมมานโด  วิสามัญนายวสันต์ หรือหนุ่ม ผัวโหดยิงเมียดับที่อำเภอบางไทร
          
วันที่ 25 ธ.ค. 67  พล.ต.ท.สุรพล  เปรมบุตร  ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ใช้เวลานานกว่า 30 นาที แล้วออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์ตามยุทธวิธี  มีการเจรจากับผู้ก่อเหตุหรือคนร้ายเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ต้องเกิดการสูญเสียและตำรวจเราได้รับบาดเจ็บ 2 นาย สาหัส 1 นายถูกยิงเข้าที่ต้นขา  เส้นเลือดใหญ่เสียเลือดมาก  นำส่งโรงพยาบาลตำรวจ ขณะนี้ปลอดภัยทั้งคู่

     
     จากการลงไปตรวจสอบสภาพบ้าน  ที่คนร้ายไปซุกซ่อนเป็นบ้านชั้นเดียว ผนังคอนกรีต ประตูหน้าต่างปิดกระจกรอบด้าน ภายในบ้านเป็นห้องโถงสำหรับห้องนั่งเล่น สภาพศพคนร้ายถูกยิงเข้าที่ด้านหน้า จำนวนกระสุนต้องรอให้เจ้าหน้าที่เขาชันสูตรจึงสามารถระบุได้ อาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนก๊อกออโตเมติก  ขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก  magazine บรรจุกระสุนจำนวน 3 อัน  และมี 1 อัน ดัดแปลงสามารถบรรจุกระสุน  ได้มากกว่าแมกกาซีนปืนกล็อกทั่วไป 20-30 นัด  ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ 4 ฝ่ายเข้ามาร่วมชันสูตร ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครอง อัยการ และแพทย์  จึงจำเป็นต้องกันผู้สื่อข่าว  ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด  เพื่อความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต
      
    อย่างไรก็ตาม พ่อของนายวสันต์ ที่เสียชีวิต ใส่เสื้อเหลืองเปิดร้านขายของอยู่ปากซอย ผู้ใหญ่บอย  ห่างจากจุดที่ผู้ตายเข้าไปกบดาน ประมาณ 300 เมตร ตลอดเวลาที่ตำรวจปิดล้อมเข้าออก  ต้องผ่านหน้าร้านตลอดเวลา ความรู้สึกตอนนั้น คุณพ่อของนายวสันต์  ผู้ตาย เก็บอารมณ์  เก็บความรู้สึก เก็บความในใจ พูดแต่เพียงสั้นๆว่า เป็นเรื่องธรรมดา ชีวิตผ่านมาเยอะ

      
    ด้าน น.ส.ศุภนุช อายุ 29  ปี  หลานแท้ๆ  ของนายวสันต์ บอกว่าสาเหตุที่น้าชาย ยิงภรรยาตัวเอง  เกิดจากความหึงหวง และอาการผิดปกติ ของนางวิจิตรา  ภรรยา ที่มีอารมณ์หึงหวงรุนแรง  มีปากมีเสียงทะเลาะวิวาทกันประจำ ทุกครั้งมีเรื่องก็มักจะเอามาสอบถามเชิงแซะและยังหึงหวงตนกับน้าชายด้วย  เชื่อว่าสาเหตุที่น้าชายยิงภรรยาตัวเอง  เกิดจากความรำคาญเมีย ไม่ทราบว่าครั้งสุดท้าย  ถึงขนาดตำหนิด่าบุพการีของนายวสันต์น้าชายด้วย  ทำให้น้าชายถึงกับระเบิดอารมณ์ยิงเมียตัวเองเสียชีวิตคาบ้านดังกล่าว
      
    ต่อมา เจ้าหน้าที่ 4 ฝ่ายร่วมชันสูตรศพวิสามัญ ด้านผู้การเผยคนร้ายโหด ก่อคดีเยอะในพื้นที่บางไทร ญาติไม่ขอนำศพมาสวดพร้อมกัน  ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ แล้วฝ่ายปกครอง ร่วมชันสูตรพลิกศพนายวสันต์ที่ถูกวิสามัญ  สภาพบ้านเป็นบ้านคอนกรีตชั้นเดียว  ประตูหน้าต่างเป็นแบบกระจก ทางบันไดขึ้นหน้าบ้านพบกองเลือดขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกองเลือดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าปฏิบัติการจู่โจม ถูกคนร้ายยิงได้รับบาดเจ็บ ทั้ง 2 นาย รอบๆใกล้กับกองเลือดหน้าบ้านพบปลอกกระสุนปืนหลายปอก ประตูหน้าต่าง มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน แตกกระจาย  หน้าประตูเข้าบ้านพบร่างของนายวสันต์  ถูกวิสามัญนอนเสียชีวิตหงายท้อง  มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายนัด  เข้าที่บริเวณด้านหน้า  มือผู้ตายยังกำปืน ยี่ห้อก๊อกแบบออโตเมติก 1 กระบอก พบแม็กกาซีนบรรจุกระสุนปืน  ขนาด 9 ม.ม.  ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 3 อัน มี 1 อันถูกดัดแปลงต่อยาวสามารถบรรจุกระสุนได้มากถึง 30 นัด ภายในบ้านพบโล่ตำรวจ ถูกยิงด้วยกระสุนปืน  ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 8 นัด วางตกอยู่

     
     พล.ต.ต.โชติวัฒน์  เหลืองวิลัย  ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า  คนร้ายที่ถูกตำรวจวิสามัญก่อเหตุในพื้นที่อำเภอบางไทรหลายคดี  เป็นบุคคลอันตราย  ขนาดที่ตำรวจจู่โจมเข้าถึงหน้าบ้าน  คนร้ายรัวกระสุนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ  ชุดปฏิบัติการพิเศษก่อนแล้ว  เกิดการยิงป้องกันตัวปะทะกัน เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ  ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ส่วนนายวสันต์ ถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิต หลังชันสูตรในเบื้องต้นพร้อมกับเจ้าหน้าที่ 4 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งศพตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์  เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
        
  กรณีความคืบหน้าเหตุนายวสันต์ หรือ  หนุ่ม    อายุ 51 ปี  ผัวโหดยิงนางวิจิตรา    ภรรยา  ที่อยู่กินด้วยกันนานเกือบ 2 ปี เสียชีวิตคาบ้านพัก ที่ตำบลโคกช้าง  อ.บางไทร  จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา  ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายวสันต์หรือหนุ่ม  ผู้ก่อเหตุ หลบหนีซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ของเพื่อนบ้านที่มีความสนิทกัน  ตั้งอยู่ในซอยผู้ใหญ่บอย  หมู่ 3 ต.โคกช้าง  อ.บางไทร  ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ
        
  กำลังตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 50 นาย พร้อมอาวุธ เข้าทำการปิดล้อม ทราบว่าเจ้าของบ้าน ออกไปขายของตั้งแต่เช้ามืด ส่วนนายวสันต์ หรือหนุ่ม ยังนอนกบดานอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ  ได้ใช้ยุทธวิธีเจรจา ได้นำแม่ และพี่สาว ของคนร้ายมาเจรจา ได้รับการยืนยันจากนายวสันต์ หรือหนุ่มคนร้ายจะขอสู้ตาย  เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง  เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังกดดัน เพื่อหวังให้คนร้ายมอบตัว  ใช้โดนบินขึ้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบบ้าน และกันชาวบ้านรอบข้าง ที่อยู่ในรัศมีเกิดเหตุ ให้ปิดบ้านหากไม่จำเป็นให้ออกนอกบ้านเพื่อความปลอดภัย
    
      พล.ต.ต.โชติวัฒน์  ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เข้ามาอำนวยการปฏิบัติการด้วยตัวเอง สั่งการผ่านโดน ขณะขึ้นบินสำรวจกดดันคนร้าย แต่ด้วยเวลาที่ผ่านมานานเกรงว่าคนร้ายจะเครียด ที่สำคัญคนร้ายมีอาวุธปืน และตามบุคลิกทราบว่าคนร้ายมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดีด้วย  ปืนที่ใช้ประจำทราบว่าเป็นปืนที่มีประสิทธิภาพดัดแปลงต่อแมกกาซีน สามารถใส่บรรจุลูกกระสุน  ยิงออกมาเป็นชุดคล้ายกับปืนกล จึงตัดสินใจสั่งการจู่โจมปฏิบัติการจับกุมทันที  เกิดการยิงต่อสู้กันเสียงปืนยิงตอบโต้กันสนั่นหวั่นไหว  หลังเสียงปืนสงบ พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ถูกยิงเข้าที่ขากระดูกแตกถูกเส้นเลือดใหญ่  จำนวน 2 นาย สาหัส 1 นาย ขณะนี้เร่งนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ  รักษาเพื่อความปลอดภัย ส่วนคนร้ายนายวสันต์หรือหนุ่ม ถูกวิสามัญดับตรงบ้านที่หลบซ่อน