คนงานตัดปาล์มชาวเมียนมาพบโครงกระดูกปริศนาถูกห่อด้วยผ้าห่มนวมผูกมัดด้วยเชือกไนล่อนแน่นหมกซ่อนอยู่ใต้โคนต้นปาล์มน้ำมัน สงสัยเปิดดูถึงกับผงะเชื่อเป็นโครงกระดูมนุษย์รีบเผ่นแจ้งเจ้าของสวนก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 25 ธ.ค.67 ร.ต.อ.ปฐมพงษ์ ชุมมาก พนักงานสอบสวน สภ.บ้านวิสัยเหนือ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีคนพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในสวนปาล์มแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยา จันทร์นุ้ย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านวิสัยเหนือ ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตวิสัย รุดตรวจสอบ
จุดเกิดเหตุที่พบโครงกระดูกปริศนาอยู่ภายในสวนปาล์มน้ำมันส่วนบุคคลริมถนนคอนกรีต ถ้ำเพลิงซอย 1 ห่างจากถนนสายเอเซีย 41 ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ใต้กองทางปาล์มน้ำมันที่กองทับถมกันพบผ้าห่อนวนผืนใหญ่ผูกด้วยเชือกในล่อนสีแดงแกะดูพบเป็นโครงกระดูกมนุษย์หลายชิ้นบางส่วนก็มีเศษกระดูกกระจัดกระจายอยู่ใกล้กัน แต่ไม่พบส่วนกะโหลกศีรษะ
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์จึงรวบรวมกระดูกที่พบมาประติดประต่อและวัดความสูง และยังมีเสื้อผ้าเป็นชุดบอดี้สูทสายเดี่ยวผู้หญิง 1 ตัว กางเกงขายาวเลกกิ้งผู้หญิง 1 ตัว และเสื้อคลุม 1 ตัว ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสภาพเก่าเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วนานนับปี
สอบถามนายณัฐวุฒิ ผิวบาง อายุ 28 ปี หัวหน้าดูแลคนงานภายในสวนปาล์มน้ำมัน เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 6 โมงครึ่งของเย็นวันนี้แรงงานตัดปาล์มชาวเมียนมา ได้มาพบห่อผ้าห่มนวมมีโครงกระดูกตอนแรกคิดว่าเป็นซากของสุนัขพอดึงออกมาจากกองทางปาล์มพบว่าเป็นกระดูกท่อนมีขนาดยาวจึงโทรหาให้มาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
คนดูแลสวนปาล์ม เล่าอีกว่า โดยปกติจะมีคนงานเข้าตัดปาล์มประมาณ 10 กว่าวันเข้ามาสักครั้ง และก่อนหน้านี้สวนปาล์มน้ำมันไม่ได้กั้นประตูทางเข้าจึงมีคนเข้ามาในสวนหากบ หาปลา กันบ่อย เพิ่งจะทำประตูรั้วไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาและติดกล้องวงจรปิดเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าอาจจะเป็นโครงกระดูกผู้หญิงเพราะสันนิษฐานจากเสื้อผ้าและอาจจะถูกฆ่ามาจากที่อื่นเพื่ออำพรางคดีโดยนำศพห่อผ้านวมมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนาก่อนนำมาทิ้งในสวนมาดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างไกลชุมชนและใช้ทางปาล์มปิดทับอีกชั้นนานจนเหลือแต่กระดูกจนมีคนงานชาวเมียมามาพบดังกล่าว
ด้านพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเก็บกระดูกไว้ที่มูลนิธิชุมพรฯก่อนและจะเอามวลกระดูกบางส่วนตรวจอัตลักษณ์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุอะไรได้