วันที่ 26 ธ.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า...
เตือน “ทักษิณ”อย่าอ้างเบื้องสูง
ผมเห็นนายทักษิณ ชินวัตร ได้พูดและปราศรัยบนเวทีหาเสียง พยายามใช้ข้อความ เพื่อสื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า ตัวเองได้กลับประเทศ เพื่อมารับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ฟังอยู่หลายครั้ง ก็คิดว่าเป็นการพลั้งเผลอ หรือเผลอปากพูดออกไป
แต่เมื่อติดตามความเคลื่อนไหวผ่านการปราศรัยของนายทักษิณหลายครั้ง พบว่าเป็นความจงใจที่จะพูดเรื่องนี้ เช่นล่าสุด การปราศรัยหาเสียงนายกอบจ. เชียงใหม่ ที่ผ่านมา
นายทักษิณได้กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่2568 ว่า “ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ตนกลับมาบ้าน ด้วยความห่วงใยและอยากรับใช้พี่น้องคนไทยทุกคน เนื่องจากว่าตนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนถือว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะฉะนั้นตนต้องทำหน้าที่ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่ต้องทำงานรับใช้สังคมให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ผมไม่ทราบว่า การที่นายทักษิณพูดในลักษณะเช่นนี้หลายครั้ง ต้องการสื่อความหมาย หรือมีเป้าหมายประสงค์ใดกันแน่ แต่ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องไม่บังควรอย่างยิ่ง ที่จะนำสถาบันเบื้อสูงมาเกี่ยวข้องกับการปราศรัยทางการเมือง หรือการหาเสียงใดๆ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง ซึ่งอาจทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ รู้สึกไม่สบายใจ
ในอดีตที่ผ่านมานายทักษิณเอง เคยแสดงบทบาทหมิ่นเหม่ จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงมาตลอด ตั้งแต่สมัยเป็นนายกรัฐมนตรีจนถึงปี 2549 ได้ถูกคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ยึดอำนาจจากเหตุผล 4 ข้อ คือ
1.จาบจ้างสถาบันเบื้องสูง 2.มีการทุจริตเชิงนโยบายและมีผลประโยชน์ทับซ้อน 3.แทรกแซงองค์กรอิสระ 4.สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม
ตอนนี้เหตุผลทั้ง 4 ข้อที่ คมช.ได้ยกอ้างขึ้นมาเป็นเหตุผลในการยึดอำนาจ กำลังหวนคืนมาปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้นอีก และมีแนวโน้มว่าจะเกินเลยเหตุผล 4 ข้อในอดีตเสียด้วยซ้ำไป และนายทักษิณก็ไม่รู้สึกเข็ดหลาบ ยังกลับมาทำพฤฒิกรรมแบบเดิมๆอีก
ในฐานะที่เป็นนักการเมืองด้วยกัน และเคยผ่านคุกผ่านตะรางมาเช่นเดียวกัน เพียงแต่นายทักษิณไม่ได้ติดคุกจริง จึงอาจจะไม่รู้สึกสำนึกในความผิดใดๆ เกิดอาการย่ามใจ คิดว่าตัวเองมีเส้น แสดงบทบาททางการเมืองยิ่งกว่า ระบอบทักษิณยุคแรกเริ่มเสียอีก
ขอเตือนด้วยความหวังดี ไม่มีอะไรแอบแฝง ให้ระวัง ”บินสูงอาจตกมาตายได้“
