ชายมะกันรับสารภาพ – บีบีซี รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีกับชายชาวอเมริกันที่ชอบยิงนกที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในประเทศ รวมทั้งขายเศษซากและอวัยวะบางส่วนในตลาดมืด ก่อนถูกศาลรัฐบาลกลางพิพากษาให้จำคุก 5 ปี เมื่อเดือนก.ค.ปีที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 20 มี.ค. นายแบรนสันให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริงฐานสมรู้ร่วมคิด ลักลอบขน “นกอินทรีหัวล้าน” และ “นกอินทรีทอง” รวมทั้งฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างรัฐในข้อหาลักลอบขนส่งและครอบครองสัตว์ป่า ทำให้ต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินประมาณ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือเกือบ 9 ล้านบาท)
เจ้าหน้าที่สืบสวนกล่าวว่าระหว่างปี 2558-2564 นายแบรนสันออกเดินทางจากบ้านในรัฐวอชิงตันเพื่อยังฝั่งตะวันตกของรัฐมอนทานาเพื่อล่าสัตว์ โดยร่วมมือกับ นายไซมอน พอล เพื่อนนักล่าซึ่งร่วมกันยิงนกประมาณ 3,600 ตัวในเขตสงวนอินเดียนแฟลตเฮดและที่อื่นๆ
สำหรับนายพอลนั้นตกเป็นบุคคลที่ตำรวจต้องการตัวในข้อหาเดียวกัน และต่อมาถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกับนายแบรนสันซึ่งโดนจับภายหลังตำรวจเรียกจอดรถเมื่อเดือนมี.ค.2564 และเจ้าหน้าที่ต้องตะลึงหนักเพราะพบกรงเล็บและขนของนกอินทรีทองภายในรถ
ทั้งนี้ นกอินทรีหัวล้านเป็นนกประจำชาติของสหรัฐและยังมีภาพปรากฏในเงินและตราประจำชาติด้วย แต่เคยกลายเป็นนกใกล้สูญพันธุ์ในหลายพื้นที่ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20
เพราะตกเป็นเป้าหมายของนักล่า ทั้งยังสูญเสียถิ่นที่อยู่ และเผชิญกับปัญหาสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเพราะมนุษย์ใช้ยาฆ่าแมลง (ดีดีที) ในพื้นที่เกษตรกรรม ทำให้นกวางไข่ที่มีเปลือกหนาไม่ได้ จนทางการต้องออกกฎหมายห้อมใช้ดีดีทีในปี 2515
เมื่อปี 2506 องค์การบริหารปลาและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐพบรังนกอินทรีหัวล้านเพียง 417 รังเท่านั้น ตั้งแต่นั้นมาจึงมีความพยายามอนุรักษ์อย่างแข็งขัน ทำให้นกอินทรีหัวล้านเพิ่มจำนวนมากขึ้นและไม่ถือว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกต่อไป