ประเสริฐ เชื่อ “ทักษิณ” ปรารถนาดี ชี้เป้าแก๊งคอลเซนเตอร์ปอยเปต ยัน ดีอี ไม่นิ่งนอนใจ ประสานกัมพูชา ลุยปราบปรามอยู่ตลอด หวังปี 68 เห็นผล
เมื่อเวลา 11.05 น. วันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวบนเวทีปราศรัยถึงประเด็นการกำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านว่า นายทักษิณพูดบนเวทีปราศรัยเป็นความปรารถนาดี ที่นายทักษิณเองก็มองเห็นว่าเป็นปัญหาหนึ่งที่ต้องได้รับการแก้ไข
ซึ่งต้นตอของปัญหาส่วนหนึ่งก็อยู่ต่างประเทศหรือที่ปอยเปต และเป็นที่ทราบกันดีว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ใช้สถานที่นั้นเป็นสถานที่ปฏิบัติการ ทางกระทรวงดีอีไม่ได้นิ่งนอนใจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกับทางประเทศกัมพูชาตลอดอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาทางตำรวจเคยประสานงานกับประเทศกัมพูชาเข้าไปทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชาร่วมกัน ปัจจุบันมีเบาะแสที่จะสามารถทำให้เกิดปฏิบัติการแบบนั้นได้อีกหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า มีการทำงานร่วมกันของระดับปฏิบัติการ คือฝ่ายความมั่นคงของประเทศเรา และฝ่ายของประเทศกัมพูชา
รวมถึงมีการทำงานร่วมกันของฝ่ายนโยบาย และกระทรวงดีอีได้มีการพูดคุยกับทางประเทศกัมพูชาอยู่เช่นกัน โดยดูเวลาและโอกาสอันเหมาะสม คงจะต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
เมื่อถามอีกว่าจะเห็นผลหรือเสร็จสิ้นภายในปี 2568 ตามที่นายทักษิณพูดหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า อยากให้เห็นผลในปี 2568 เพราะเรื่องนี้กัดกร่อนคนไทยมานานแล้ว และไปใช้ฐานที่ตั้งในต่างประเทศ
เมื่อถามกรณีอินเตอร์เน็ตมาจากฝั่งไทย เมื่อจับสัญญาณได้ครั้งหนึ่ง ก็ตัดสัญญาณครั้งหนึ่ง ทางกระทรวงดีอีมีการตรวจสอบเบาะแสเพิ่มเติมหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เราได้ประสานงานกับทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดีเอสไอ และกรมสอบสวนกลาง ปราบปรามอยู่ตลอดตามแนวตะเข็บชายแดน
ซึ่งขณะนี้มิจฉาชีพใช้ดาวเทียมวงโคจรต่ำอย่างสตาร์ลิงก์เข้าไปยิงสัญญาณอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นปัญหาที่ตามจับอยู่ ส่วนเรื่องที่มีการวางสายสัญญาณลอดไปนั้น เราก็มีการตรวจสอบอยู่ตลอด เรียกได้ว่ามีการปฏิบัติงานอยู่ทุกเดือน
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีมาตรการกดดันไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการหน่วงเงินหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า มี เรื่องการหน่วงเงินนี้เป็นข้อเสนอที่หลายฝ่ายอยากให้เกิดขึ้น ตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับแบงก์ชาติ
ตอนนี้เราเสนอร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินการธุรกรรมของสินทรัพย์ดิจิทัล เรื่องการเพิ่มโทษ เรื่องการเยียวยา และเรื่องการมีความรับผิดชอบของธนาคารพาณิชย์กับผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณ ซึ่งจะต้องมีการลงในรายละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต่อไปนี้หากมีผู้เสียหาย ธนาคารก็จะต้องมีส่วนเยียวยาเหมือนประเทศสิงคโปร์ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องดูว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากระบบธนาคารมีความไม่ปลอดภัย หรือเพราะประชาชนมีความประมาท ต้องดูเหตุผลด้วย ปีหน้าเห็นการแก้ไขแน่นอน
ซึ่งร่าง พ.ร.ก. นี้ เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปตั้งแต่เดือนพ.ย. 2567 แล้ว กำลังรอพิจารณาอยู่ ถ้ามีผลบังคับใช้ในเดือน ม.ค. 2568 ก็จะดี เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน
เมื่อถามว่า ใน พ.ร.ก. ได้มีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำที่ธนาคารพาณิชย์และบริการเครือข่ายสัญญาณสัญญาณจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ได้มีเขียนไว้ อันนั้นจะเป็นปลีกย่อยในรายละเอียด เราเขียนในเรื่องของหลักการ