ส่อเค้าวุ่น! สภาล่างมะกันปัดตกร่างงบประมาณใหม่ทรัมป์ จับตาเสี่ยงชัตดาวน์ศุกร์นี้

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐตีตกร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ที่นำเสนอโดยพรรครีพับลิกันในวันที่ 19 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยคะแนน 235 ต่อ 174 ที่มีจุดหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะขาดเงินสดลงในคืนวันที่ 20 ธันวาคม และต้องยุติการทำงานในช่วงสุดสัปดาห์นี้ทันทีหากยังไม่สามารถผ่าทางตันได้

การลงคะแนนเสียงถูกจัดขึ้นอย่างเร่งรีบในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี ขณะที่บรรดานักกฎหมายกำลังเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านในช่วงวันหยุด ที่สุดแล้วสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนร่างงบประมาณดังกล่าวได้ถึง 2 ใน 3 ซึ่งจำเป็นเพื่อให้ร่างงประมาณดังกล่าวผ่านการรับรองได้ โดยมีรายงานว่าแม้แต่สมาชิกพรรครีพับลิกันสายเหยี่ยวหลายคนที่ไม่พอใจกับการเสนอร่างงบประมาณอย่างกระทันหันดังกล่าวปฏิเสธที่จะสนับสนุน และก่อกบฏต่อต้านผู้นำพรรคเพื่อล้มร่างงบประมาณนี้

ด้านไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันยังประกาศว่า จะมีการรวบรวมเสียงอีกครั้ง และพยายามหาทางออกก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันศุกร์ พร้อมกับขอให้ติดตามต่อไป

ก่อนหน้าการล้มร่างงบประมาณเพียงไม่กี่ชั่วโมง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ประกาศว่า ประสบความสำเร็จในวอชิงตันในการเสนอร่างงบประมาณใหม่ที่จะทำให้รัฐบาลทำงานต่อไปได้อีก 3 เดือน เพิ่มเงินช่วยเหลือภัยพิบัติ 100,400 ล้านดอลลาร์ สำหรับรัฐที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน และอนุญาตให้กู้ยืมเงินได้มากขึ้นจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2027 ไมค์ จอห์นสัน และสภาผู้แทนราษฎรได้บรรลุข้อตกลงที่ดีมาก

ความล้มเหลวในการผลักดันร่างงบประมาณใหม่ดังกล่าวถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์ และอีลอน มัสก์ พันธมิตรสำคัญของเขาที่ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลประสิทธิภาพของรัฐบาล ด้วยร่างงบประมาณใหม่นี้จะจัดสรรเงินทุนสำหรับการดำเนินนโยบายของทรัมป์ รวมถึงการระงับเพดานหนี้ แม้ว่าพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันก่อนหน้านี้ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการชัตดาวน์ในช่วงคริสต์มาสก็ตาม

ฮาคีม เจฟฟรีย์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาล่าง กล่าวว่า พรรคเดโมแครตยึดมั่นในข้อตกลงเดิมที่ทำไว้กับจอห์นสัน และบอกว่าข้อตกลงใหม่เป็นเรื่องน่าขัน เพราะมันไม่ใช่ข้อเสนอที่แท้จริง

ข้อเสนอใหม่นี้ลดจำนวนหน้าของร่างกฎหมายจาก 1,500 หน้าลงเหลือเพียง 116 หน้า และตัดส่วนเพิ่มเติมออกไปหลายส่วน โดยเฉพาะการขึ้นเงินเดือนของสมาชิกรัฐสภาครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ซึ่งอาจเพิ่มได้ถึง 3.8% ซึ่งทำให้เกิดการคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ขณะที่มัสก์กระตุ้นให้กองทัพโซเชียลมีเดียของเขาต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าว