โรม ซัด ทักษิณ ทำตัวไม่ต่างล็อบบี้ยิสต์ ปมคุย อันวาร์ แนะ รบ. ตั้งผู้แทนเจรจา แทนใช้กลไก แม้ว แก้ชายแดนใต้
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน(ปชน.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเรือยอร์ชจาก จ.ภูเก็ต ไปเกาะหลีเป๊ะเพื่อคุยดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ต้องบอกว่าเวลาเรามีรัฐบาล มีฝ่ายค้าน หลักการก็คือฝ่ายค้านจะได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และอะไรที่มีความจำเป็นมีความสำคัญเราก็สามารถตรวจสอบได้ แต่ปัญหาคือการพบกันระหว่างนายทักษิณกับนายอันวาร์ เป็นการพบกันในฐานะอะไรเพราะนายทักษิณไม่ได้มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการหรือตามกฏหมายในรัฐบาลนี้เลย
“เราก็เห็นบทบาทของนายทักษิณทำหรือมีการแสดงกิริยา ที่ทำราวกับว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราไม่เห็นการออกมาพยายามปฏิเสธของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือออกมาพูดในเชิงว่านายทักษิณไม่มีอำนาจอะไรเลย แต่กลายเป็นว่าหลายๆเรื่องเหมือนกับทุกคนต้องไปรอนายทักษิณด้วยซ้ำ ว่าตกลงนายทักษิณคิดอะไรรัฐบาลก็คิดอย่างนั้น”นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เมื่อเป็นการพบกันระหว่างนายทักษิณกับนายอันวาร์พูดกันตรงๆก็คือ ยากมากที่เราจะรู้ได้ว่าตกลงแล้วการพบกันครั้งนี้มีวาระเรื่องสำคัญอย่างไรที่มีความจำเป็นที่ประชาชนต้องรู้ กลายเป็นว่าการอยู่หลังฉากของนายทักษิณ ทำให้การตรวจสอบของฝ่ายต่างๆในเรื่องนี้ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนทำได้ยากมาก ตนก็อยากจะทราบ เพราะเรื่องที่เราติดตามอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วาระอาเซียน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอะไรต่างๆ ซึ่งมาเลเซียก็เกี่ยวในแง่ที่ว่ามีคนมาเลเซีย ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ในกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย สิ่งเหล่านี้เราเองก็อยากรู้ว่ามีการคุยกันหรือทำอะไรกัน
“วันนี้ภาพของนายทักษิณจึงไม่ต่างอะไรกับล็อบบี้ยิสต์ ที่อยู่ในวงนอกของรัฐบาล แต่มีอิทธิพลในการที่จะทำในเรื่องต่างๆของรัฐบาลมาก จึงทำให้การทำงานของฝ่ายค้านตรวจสอบเรื่องนี้ทำได้ยากมากขึ้น”นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่านายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่ามีการพูดคุยถึงประเด็นการแก้ปัญหาพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอาเซียน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ประเด็นคือถ้านายทักษิณเป็นนักวิชาการแล้วให้ความเห็นจากประสบการณ์ต่างๆก็คงไม่เป็นปัญหา แต่เราก็รู้ว่า ”ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ซึ่งกลายเป็นสโลแกนแบบนั้น ดังนั้นก็กลายเป็นว่าวันนี้ ที่นายทักษิณดำเนินการเหมือนกับนายทักษิณทำในฐานะนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำ โดยที่น.ส.แพทองธารก็เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดให้กับนายทักษิณ เมื่อเป็นแบบนี้เลยทำให้การตรวจสอบในหลายหลายเรื่องยาก อย่างเรื่องสามจังหวัดใช้แดนภาคใต้เป็นเรื่องระหว่างนายทักษิณกลับมาเลเซียอย่างนั้นหรือไม่ ตนว่ามันไม่ใช่ แต่คิดว่ามีคนไกลหลายส่วนที่จะต้องเข้าไปเกี่ยว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดังนั้นการที่จะมีการแก้ปัญหาเรื่องสามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ตนคิดว่าสภามีสิทธิรู้ความเคลื่อนไหว ความคืบหน้าเพราะสภาคือตัวแทนของประชาชน แน่นอนว่าบางเรื่อง อาจจะนำมาเปิดเผยในที่สาธารณะไม่ได้ ซึ่งก็เข้าใจแต่ก็ต้องมีกระบวนการทางกฎหมาย ในการจัดการกับข้อมูลที่อยู่ในชั้นความลับ ซึ่งรูปแบบที่ทำกันอยู่เป็นแบบที่ไม่ได้มีกระบวนการทางกฎหมายรองรับเลยก็ตาม เรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการนำมาพูดคุยกันในสภาเป็นระยะๆอยู่แล้ว เพียงแต่รูปแบบที่กำลังทำอยู่ของนายทักษิณ จะให้ ตำแหน่งว่าเป็นที่ปรึกษาของนายอันวาร์อะไรก็แล้วแต่ ตนคิดว่าเป็นรูปแบบที่อยู่นอกระบบและทำให้เราไม่สามารถตรวจสอบได้ จริงๆแล้วตนคิดว่าถ้ารัฐบาลตั้งใจจะแก้ปัญหาก็ไม่ควรจะใช้กลไกของนายทักษิณ ควรจะมีกลไกอย่างเป็นทางการไม่ว่าจะเป็นการตั้งผู้แทนที่จะไปเจรจาแล้วมีผลการเจรจาออกมาอย่างไรก็เอามาพูดคุยกัน