ส่องเทรนด์อสังหาปี’68 บ้านหรู รร. คลังสินค้า นิคม โดดเด่น คอนโดซึม ออฟฟิศเช่า ค่าปลีกแข่งเดือด
GH News December 28, 2024 04:40 PM

ส่องเทรนด์อสังหาปี’68 บ้านหรู รร. คลังสินค้า นิคม โดดเด่น คอนโดซึม ออฟฟิศเช่า ค่าปลีกแข่งเดือด

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสารบริษัท คอลลิเออร์ส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ดาวเด่นของธุรกิจอสังริมทรัพย์ปี 2567 คือ ตลาดแนวราบที่เปิดตัวต่อเนื่องทั้งพื้นที่กรุงเทพและจังหวัดยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะบ้านลักชัวรี่ที่มีอัตราการขายสูง ปิดการขายได้เร็ว เช่น ย่านบางนา เลียบทางด่วนรามอินทรา พัฒนาการ กรุงเทพกรีฑา โดยราคาขายมากกว่า 100 ล้านบาทเปิดใหม่จำนวนมากและมีการตอบรับกำลังซื้อที่ดี แม้เศรษฐกิจชะลอตัว คาดปี2568 แนวราบยังเติบโต

ส่วนตลาดคอนโดมีปัญหากำลังซื้อ ทำให้ผู้พัฒนาหันไปพัฒนาพื้นที่ชั้นนอกแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพู คาดปี 2568 โครงการใหม่จะปรับตัวลดลงกลับไปสู่จุดสมดุลของตลาด 20,000-25,000 ยูนิต ลดลง 14.2% จากปีนี้เปิด 51 โครงการ 21,891 ยูนิต มูลค่า116,362 ล้านบาท แต่จะมีแฟล็กชิปคอนโดกลางเมืองมาสร้างกระแสอีกครั้ง ทั้งราคาขายสูงสุด ขนาดโครงการและมียูนิตขายน้อยหรือOne Floor One Unit แต่เซกเมนต์ราคา 100,000-150,000 บาทต่อตารางเมตร ยังน่าจับตาเพราะเข้าถึงได้ง่าย ขณะที่แคมปัสคอนโดและโครงการอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาจะคึกคักเช่นกัน

ขณะที่ตลาดพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพ คาดในปี2568-2570 มีอุปทานใหม่เข้าสู่ตลาดมากกว่า 1.1 ล้านตารางเมตร สร้างความกังวลใจให้ผู้พัฒนา ขณะที่อุปสงค์ใหม่ไม่เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ อาจส่งผลให้มีพื้นที่ว่างรอการเช่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ด้านธุรกิจอุตสาหกรรม คลังสินค้าให้เช่าและนิคมอุตสาหกรรม ยังคงเป็นดาวเด่นต่อเนื่องปี2568 จากกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซและคอนซูเมอร์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยปี 2567 มียอดเช่ากว่า 350,000 ตารางเมตรและมีการซื้อขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมกว่า 6,071 ไร่ เพิ่มขึ้น 50.12% ได้อานิสงส์จากการกระจายฐานการผลิตและการขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียนของนักลงทุนต่างชาติและโดย 90% อยู่ในพื้นที่อีอีซี เช่น โรงงานผลิตรถยนต์อีวี การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

สำหรับธุรกิจพื้นที่ค้าปลีก ผู้พัฒนาต้องปรับตัวให้รวดเร็ว รองรับกับการแข่งขันที่ดุเดือด โดยสิ้นไตรมาส4/2567 มีอุปทานสะสมในกรุงเทพฯและโดยรอบกว่า 9 ล้านตารางเมตร เพิ่มขึ้น 163,028 ตารางเมตร เหลือพื้นที่ว่างกว่า 1.4 ล้านตารางเมตร และจะแล้วเสร็จปี2568 ประมาณ 269,458 ตารางเมตร และปี 2569 อีก 157,000 ตารางเมตร

ด้านตลาดโรงแรมคาดว่าปี 2568 ยังคงเติบโต มีปัจจัยบวกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น การสนับสนุนจากรัฐบาล การเมืองในประเทศสงบ ส่งผลให้ไทยเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับชาวต่างชาติ ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ย รวมค่าห้องพักรายวันเติบโตและมีผลให้เกิดการซื้อขายโรงแรมในไทยคักคัก สะท้อนจากในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2567 ที่ผ่านมา เกิดการซื้อขายประมาณ 12 แห่ง รวม 3,199 ห้องพัก ด้วยมูลค่า 16,778 ล้านบาท และทั้งหมดเกิดขึ้นในเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต กรุงเทพ เชียงใหม่ สมุย และอยู่ระหว่างเจรจาซื้อขายอีกมาก

ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศในพื้นที่เกาะภูเก็ต ในปีที่ผ่านมามีรายใหญ่ในพื้นที่และจากกรุงเทพ เปิดตัวโครงการใหม่อย่างคึกคัก พบอุปทานเปิดขายใหม่ทั้งคอนโดและบ้านพักตากอากาศมากที่สุดในรอบ 15 ปี ด้วยมูลค่ามากกว่า 120,000 ล้านบาท และไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ยังคงมีรอการเปิดตัวมากกว่า 3,200 หน่วย ด้วยมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท รวมทั้งปีนี้อยู่ที่ประมาณ 140,000 ล้านบาท คาดปี 2568 จะยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำเลที่ได้รับความนิยมยังคงเป็นบางเทา เชิงทะเล ราไวย์ กะตะ กะรน เมืองภูเก็ต ยังคงมีผู้พัฒนารายใหม่จากกรุงเทพเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการต่อเนื่องปีหน้า

ขณะที่ชลบุรีเป็นอีกจังหวัดที่ตลาดคอนโดกลับมาคึกคัก มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ในปี 2567 มีเปิดขาย 20 โครงการ 10,437 ยูนิต ด้วยมูลค่า 43,285 ล้านบาท อยู่ในพัทยา 13 โครงการ 7,897 ยูนิต มูลค่า 38,700 ล้านบาท และนอกเขตพื้นที่พัทยา 7 โครงการ 2,540 ยูนิต มูลค่า 4,585 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยคอนโดลักชัวรี่ได้รับความสนใจ โดยเฉพาะในพื้นที่วงศ์อมาตย์และจอมเทียน เนื่องจากอุปทานมีอยู่อย่างจำกัด คาดว่าตลาดคอนโดพัทยาในปี 2568 ยังคงเป็นทำเลที่โดดเด่น มีอุปทานเปิดขายใหม่คึกคัก ทั้งใจกลางพัทยา จอมเทียน นาจอมเทียน วงศ์อมาตย์ และอาจมีคอนโดลักชัวรี่เปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาด

© Copyright @2024 LIDEA. All Rights Reserved.