หลายกีฬาฝั่งยุโรปอาจจะหยุดแข่งวันคริสต์มาสเพื่อให้ผู้คนได้เฉลิมฉลองเทศกาล แต่ไม่ใช่กับ "อเมริกัน เกมส์" ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?เทศกาลคริสต์มาสแม้ผ่านไปแล้ว แต่คิดว่ายังไม่สายเกินไปที่จะเล่าเรื่องเทศกาลแห่งความสุขนี้กันหน่อย แน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องคริสต์มาสที่เกี่ยวกับวงการกีฬา
ทราบหรือไม่ว่าในบรรดาประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ ส่วนใหญ่การแข่งขันกีฬาจะหยุดกันหมดเพื่อให้ทุกครอบครัวได้ฉลองร่วมกันถึงการบังเกิดของพระเยซู
แต่ “อเมริกันเกมส์” เป็นข้อยกเว้น
ครอบครัวชาวอเมริกันมักดูกีฬาด้วยกันในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน จากนั้น 1เดือนต่อมาพวกเขาฉลองร่วมกันอีกในเทศกาลคริสต์มาส
ที่จริงแล้วกีฬาวันคริสต์มาสเป็นประเพณีดั้งเดิมของอังกฤษในตอนแรก ฟุตบอลลีกดึงดูดผู้คนจำนวนมากมาตั้งแต่ปี 1889 ก่อนที่ความสนใจลดน้อยลงนำไปสู่เกมสุดท้ายในปี 1965 แต่ที่ทีวีอเมริกาช่วยให้บาสเกตบอลกลายเป็นสินค้าหลักของเทศกาล
NBA เล่นในวันคริสต์มาสครั้งแรกปี 1947 และมีการถ่ายทอดสด ปรากฎว่าเรตติ้งดีมาก คริสต์มาสกลายเป็นวันที่มีผู้ชมมากที่สุดในฤดูกาลปกติของ NBA โดยในปี 2011 เป็นปีที่ดีที่สุด โดยทั้ง 5 เกมมีผู้ชมเฉลี่ย 6.3 ล้านคน
แล้วอเมริกันฟุตบอล NFL ก็เข้ามาในตลาดคริสต์มาสด้วย โดยปี 1971 คริสต์มาสมีเพลย์ออฟ 2 แมตช์ คู่หลังมีการต่อเวลา 2 ครั้ง สร้างสถิติเป็นเกมที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ NFL ด้วยเวลา 82 นาที 40 วินาที แต่กลายเป็นเรื่องร้องเรียนว่าสร้างความเสียหายให้กับการเสิร์ฟอาหารค่ำ จากนั้น NFL จึงหลีกเลี่ยงเกมคริสต์มาส
ปี 1989 NFLแก้เกมด้วยการเริ่มแข่งเวลา 21.00 น. ที่แต่ละบ้านทานอาหารเสร็จแล้ว ปรากฎว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เรตติ้งผู้ชมโทรทัศน์กระฉูด 33 ล้านคน เป็นเกมคริสต์มาสที่มีผู้ชมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ตั้งแต่นั้นคริสต์มาสจึงไม่ได้มีแค่ NBA หากวันที่ 25 ธันวาคมตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีเกม NFL อย่างน้อยหนึ่งเกม พอตั้งแต่ปี 2020 NFL จะมีเกมทุกคริสต์มาส แม้ว่าจะตรงกับช่วงกลางสัปดาห์ก็ตาม
ความนิยมของ NFL ยังเติบโตขึ้น โดยช่วงสี่ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ชม NBA เฉลี่ยช่วงคริสต์มาสลดลงจาก 4.5 ล้านคน เหลือเพียง 2.9 ล้านคนในปีที่แล้ว แต่ NFL กลับเพิ่มขึ้นจาก 20.9 ล้านคนเป็น 28.7 ล้านคน
ดังนั้นคำตอบของเรื่องนี้ก็คือคริสต์มาสเป็นช่วงที่เรตติ้งผู้ชมสูงมาก
กระนั้นทราบหรือไม่ว่าเดิมทีปีนี้เกือบไม่มีเกม NFL วันคริสต์มาสเพราะตรงกลางสัปดาห์ แต่ปรากฎว่า Netflix ต้องการสตรีมมิ่งเกมวันคริสต์มาสไปทั่วโลก และพวกเขาตกลงจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถ่าย 2 เกมด้วยเงินถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 5,100 ล้านบาท
แล้วงี้ NFL จะหักหาญน้ำใจปฏิเสธได้ยังไงล่ะ.
เฮียเอง
