ผู้เสียหายตัวจริงโผล่แจ้งความ แฉเจ้าเมืองลัทธิสีรุ้ง หลอกลงทุนเป็นหนี้เกือบล้าน
ข่าวสด December 30, 2024 11:00 PM

ผู้เสียหายตัวจริงโผล่แจ้งความ แฉเจ้าเมืองลัทธิสีรุ้ง หลอกลงทุนหุ้นดิจิทัล สุดท้ายเป็นหนี้เกือบล้าน ทวงถามก็บ่ายเบี่ยง คลิปเสียงเพ้อเจ้อหนัก ชวนเหยื่อลงทุนระดับโลก ใช้ประเทศไทยเป็นประกัน

จากกรณีมีกลุ่มที่ตั้งตนเป็นลัทธิประหลาด ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ลัทธิสีรุ้ง ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านกอกหวาน ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ใช้วิธีการล่อลวงให้ผู้คนหลงเชื่อ และนำเงินไปลงทุนด้วยความเต็มใจ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรม คำพูด และบทสวดที่ดูประหลาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการในเรื่องใดได้ เนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมาร้องเรียน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว จนท.บุกตรวจ ลัทธิสีรุ้ง หลังลูกร้องแม่เปย์เงินฉ่ำ อดีตพระรับเป็นหนี้จริง ขอให้ช่วย ไม่ได้บังคับ

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 26 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ นางศรีสวัสดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี ชาว ต.โพธิ์ศรี อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาจาก กทม. เพื่อแจ้งความกับ ร.ต.อ.สหภพ เขาวันกลาง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปรางค์กู่ หลังทราบว่า ได้มีครอบครัวของสมาชิกในลัทธิ ซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ว่าญาติของเขาถูกชักจูงให้ล่อลวงให้ไปยืมเงินและขายที่ดิน เพื่อนำไปให้เจ้าเมืองแห่งอมตะมหานคร โดยมี น.ส.พรพิมล (ขอสงวนนามสกุล) ลูกสาวของ นางศรีสวัสดิ์ เดินทางมาร่วมแจ้งความด้วย

นางศรีสวัสดิ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา ตนได้ทำบุญที่ลัทธิสีรุ้งแห่งนี้ ตั้งแต่ยังเป็นที่พักสงฆ์เนื้อนาบุญ กระทั่งปี 2564 สถานที่แห่งนี้ถูกกวาดล้างและจับกุม และต่อมามีการตั้งกลุ่มลัทธิใหม่อีกครั้ง ตนก็ยังเข้าไปเนื่องจากเป็นญาติกับ นายกะรันยา หรืออดีตพระกะรันยา ซึ่งปัจจุบันตั้งตนเป็นผู้นำหรือเจ้าเมืองอมตะมหานคร และอีกอย่างตนเป็นคนที่ชอบทำบุญด้วย จึงเดินทางเข้าไปในลัทธิอยู่เป็นประจำ แต่เป็นลักษณะไปกลับ ไม่ใช่การอยู่อาศัยข้างในสถานที่แห่งนั้น

ต่อมาเมื่อปี 2566 นายกะรันยา ได้ชักชวนตนให้ลงทุนหุ้นดิจิทัล โดยพูดจาโน้มน้าวใจตนอยู่ทุกวัน ขณะที่เข้าไปในลัทธิ จนสุดท้ายตนหลงเชื่อ แต่ตอนนั้นตนไม่มีเงิน จึงได้ไปยืมเงินญาติมา 50,000 บาท เพื่อไปให้ นายกะรันยา ตนก็ไม่ทราบว่าจะเอาเงินไปใช้ในจุดใด เห็นแต่ว่าจะเอาเงินไปใช้ภายในลัทธิแห่งนี้

นางศรีสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ต่อมาตนได้แอบเอาโฉนดที่ดินของตนไปฝากขายและได้เงินมา 460,000 บาท ก่อนนำเงินจำนวน 400,000 บาท เข้าบัญชีผ่านตู้ฝากเงินอัตโนมัติให้กับบัญชีของ นายกะรันยา เพื่อนำไปลงทุน หลังจากนั้นไม่นานลูกสาวตนทราบเรื่อง จึงได้หากู้หนี้ยืมสินไปไถ่ถอนที่ดินคืนในราคา 560,000 บาท ซึ่งต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มถึง 100,000 บาท

ตั้งแต่เกิดเรื่องมาตนพยายามโทรศัพท์หา นายกะรันยา อยู่หลายครั้ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ และเลื่อนการจ่ายเงินให้ตนมาตลอด และตนยืนยันว่า นายกะรันยา เป็นคนชักชวนตนให้นำเงินไปร่วมลงทุนจริงด้วยตัวเอง โดยตนหวังว่าจะได้เงินจำนวนนี้คืนจาก นายกะรันยา เพราะต้องนำเงินไปใช้หนี้ที่ยืมมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับคลิปบันทึกเสียงการสนทนาระหว่าง นายกะรันยา กับผู้เสียหาย ความยาวประมาณ 26.43 นาที ซึ่งลูกสาวของผู้เสียหายได้โทรไปสอบถามทวงเงินของแม่คืน แต่กลับถูกชักชวนให้ไปร่วมทำงานและลงทุน โดยหากลงทุน 10,000 บาท จะได้ค่าตอบแทน 100,000 บาท ถ้าลงทุน 100,000 บาท จะได้ค่าตอบแทน 1,000,000 บาท ซึ่งได้บอกว่างานใหญ่ เป็นงานระดับโลก ไม่ใช่การซื้อขายหุ้น ไม่ใช่คริปโต หรือบิทคอยน์ เป็นการลงทุนกับแบงก์โลก กองทุนโลก หากสนใจจะลงทุนต้องมาหาเจ้าเมืองเพื่อให้เจ้าเมืองดำเนินการให้อย่างเดียว

และบ่ายเบี่ยงว่าการดำเนินการของตนนั้นอธิบายยาก พร้อมทั้งยืนยันว่าทำแล้วได้เงินจริง เพราะเป็นเรื่องของแผ่นดิน โดยมีการเอาประเทศไทยเป็นประกัน ซึ่งเป็นการดำเนินการผ่านระบบรัฐบาล ระบบกษัตริย์ ซึ่งมีการทำมา 20 กว่าปีแล้ว มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกวัน มีการบอกค่าใช้จ่ายของแต่ละวัน แล้วแต่หลักทรัพย์ของผู้ลงทุน ซึ่งของทางเจ้าเมืองเป็นหน่วยงานรากหญ้าเล็กๆ ยังมีหลักทรัพย์อยู่ที่ 40 กว่าล้าน เกือบ 50 ล้านแล้ว พร้อมทั้งได้ชักชวนให้ลูกสาวผู้เสียหายมาร่วมลงทุนและมาทำงานกับเจ้าเมือง โดยยืนยันว่าจะได้รับค่าตอบแทนแน่นอน

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.ปรางค์กู่ จะได้เรียบเรียงข้อมูลรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะที่ นายอำเภอปรางค์กู่ จะเรียกประชุมในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ และรวบรวมข้อมูล เพื่อหามูลเหตุในเรื่องนี้ต่อไป

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.