พี่สุดช็อก น้องชายวัย 19 ทำงานเป็นรปภ.โรงงงาน เลิกงานขี่จยย.เพิ่งออกได้วันเดียวชนท้ายซาเล้งล้ม เจอรถบรรทุกทับซ้ำดับคาถนน
เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 30 ธ.ค. 2567 ร.ต.อ.เปล่ง พานแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถซาเล้ง คนขี่ถูกรถบรรทุกทับซ้ำเสียชีวิต บนถนนสายเอเชีย ขาออกหลักกม.ที่ 24 เชิงสะพานข้ามทางรถไฟ ต.หันตา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมมูลนิธิพุทไธสวรรย์
ที่เกิดเหตุกลางถนน พบศพชาย อายุ 19 ปี มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะและตามร่างกาย กระดูกแขน-ขาหัก ใกล้กันมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สภาพใหม่เอี่ยม ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน สพาพพังยับเยิน เศษชิ้นส่วนรถกระจายเกลื่อน เลขไมล์เพิ่งจะขับได้เพียง 112 กม.
ห่างออกไปมีรถซาเล้งล้มตะแคงข้างราวสะพาน มีนายบุญส่ง อายุ 52 ปีเป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกาย แลพห่างไปอีก 1 กม. มีรถบรรทุก 6 ล้อจอดอยู่ มีนายพงษ์ดนัย อายุ 34 ปี เป็นคนขับ
นายบุญส่ง ให้การว่า มีอาชีพทำงานก่อสร้างที่จ.ชลบุรี ช่วงหยุดปีใหม่กำลังขับรถซาเล้งกลับบ้านที่พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ มาถึงจุดเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังขึ้นสะพาน ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับตามหลังมาด้วยความเร็วมาชนท้ายรถซาเล้งเสียงดัง คนขี่รถร่างกระเด็นไปที่กลางถนนจังหวะนั้นมีรถบรรทุก 6 ล้อมาพอดีทับร่างเสียชีวิต
ส่วนนายพงษ์ดนัย บอกว่า กำลังขี่รถจะข้ามสะพานถนนมืดมาก คิดว่ามีรถขับย้อนศรมาเบรกไม่ทันจึงพุ่งชนอย่าแรงและทับร่างของผู้เสียชีวิต ต่อมาพี่ชายเดินทางมาที่เกิดเหตุด้วยอาการตกใจ เปิดเผยว่า น้องชายทำงานเป็นรปภ.โรงงาน แห่งหนึ่งเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน มาประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตก่อนถึงบ้าน ส่วนรถจักรยานยนต์ เพิ่งจะออกมาได้เพียงวันเดียว
จากนั้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งรพ. พร้อมสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนให้ครอบครัวรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป