เกาหลีใต้ ระบุอัตลักษณ์เหยื่อ ‘เจจู แอร์’ ได้แล้วเบื้องต้น 174 ราย ทีมจนท.มะกัน-โบอิ้ง ลงพื้นที่ร่วมสืบสวน

สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า ทางการเกาหลีใต้สามารถระบุอัตลักษณ์ร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินเจจู แอร์ไถลออกนอกรันเวย์ได้แล้วในเบื้องต้น 174 รายจากผู้เสียชีวิตทั้งหมด 179 ราย ตามรายงานของกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและคมนาคมของเกาหลีใต้ ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม โดยยังเหลืออีก 5 ศพที่ยังไม่ได้ระบุอัตลักษณ์

กระทรวงระบุว่า จากทั้งหมด 32 ศพที่ไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้ด้วยการตรวจลายนิ้วมือ ทางเจ้าหน้าที่ได้ระบุอัตลักษณ์ศพผู้เสียชีวิต 17 ศพด้วยการตรวจดีเอ็นเอ และอีก 10 ศพในการตรวจรอบที่ 2 โดยอีก 5 ศพที่ยังไม่สามารถระบุอัตลักษณ์ได้ในตอนนี้จะใช้การตรวจอัตลักษณ์ด้วยการใช้ดีเอ็นเอ

ข้อมูลระบุว่ามีการส่งศพผู้เสียชีวิต 4 รายที่ถูกระบุอัตลักษณ์แล้วให้แก่ครอบครัว ซึ่งจะมีการจัดพิธีศพที่ภูมิลำเนาในวันนี้ ส่วนศพผู้เสียชีวิตคนอื่นๆ กำลังถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องเย็นชั่วคราวที่โรงเก็บเครื่องบินของสนามบินมูอัน หลังก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่าการระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 179 รายอาจใช้เวลานานถึง 10 วัน เนื่องจากศพอยู่ในสภาพที่ยากจะระบุตัวตน

ทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนของคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) ของสหรัฐ และเจ้าหน้าที่ของบริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737-800 ของสายการบินเจจู แอร์ลำที่ประสบอุบัติเหตุ ได้เดินทางมาถึงจุดที่เครื่องบินประสบอุบัติเหตุแล้วที่สนามบินมูอัน จังหวัดช็อลลาใต้ ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมการสืบสวนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวที่เดินทางมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 181 คน ไถลออกนอกรันเวย์ก่อนพุ่งชนกำแพงจนระเบิด คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 179 รายและพบผู้รอดชีวิตเพียง 2 ราย

ประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินหรือผู้ให้บริการสายการบินหรือประเทศที่มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ มีสิทธิที่จะเข้าร่วมการสืบสวนได้ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าประเทศไทย ซึ่งมีชาวไทยเสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้ 2 ราย ได้ตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมการสืบสวน

ทีมเจ้าหน้าที่จาก NTSB และโบอิ้ง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการสืบสวนอุบัติเหตุทางการบินและรางของเกาหลีใต้ ทั้ง 11 คนกำลังวิเคราะห์ซากชิ้นส่วนเครื่องบินที่จุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งภาพวิดีโอขณะที่เครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ชี้ว่าขาล้อลงจอดของเครื่องบินไม่ทำงาน

หลังจากการตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุเสร็จสิ้น การสืบสวนจะเข้าสู่ขั้นตอนการวิเคราะห์หลักฐานและข้อมูลจากกล่องดำทั้ง 2 กล่องของเครื่องบินลำดังกล่าว โดยกล่องดำที่บันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบินได้รับความเสียหายจากภายนอกและกล่องบันทึกข้อมูลดังกล่าวถูกพบว่าไม่มีตัวเชื่อมระหว่างหน่วยเก็บข้อมูลและแหล่งจ่ายไฟ แต่ทีมสืบสวนกำลังใช้วิธีทางเทคนิคเพื่อดึงข้อมูลออกมาจากกล่องบันทึกข้อมูลการบินแม้จะไม่มีตัวเชื่อมดังกล่าวก็ตาม

อย่างไรก็ดี กล่องดำที่บันทึกเสียงสนทนาของนักบินนั้นอยู่ในสภาพที่ดีกว่า โดยทีมสืบสวนจะตัดสินใจว่าจะซ่อมและวิเคราะห์กล่องดำที่เสียหายในประเทศเกาหลีใต้หรือจะส่งไปให้ NTSB วิเคราะห์ที่สหรัฐอเมริกา

นอกจากนั้น ทีมเจ้าหน้าที่สืบสวนได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินของสนามบินมูอัน 2 คนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ระงับการดำเนินงานของสายการบินมูอันไปจนถึงวันที่ 7 มกราคม