สุดทางยื้อ “ลูกน้ำ พาเมล่า” นักร้องนักแสดงสาวยุค 90 เล่าอดีตชีวิตคู่ แต่งงาน 4 เดือน ผู้ชายขอเลิก สุดท้ายผู้หญิงเป็นคนโดนว่า
ทางข่าวสดบันเทิงได้มีโอกาสสัมภาษณ์ภาษพิเศษ ถึงเรื่องอดีตชีวิตรักของนักร้องนักแสดงสาวยุค 90 “ลูกน้ำ พาเมล่า เบาว์เด้นท์” กับอดีตสามีนักแสดงตลกดัง “แห้ว รีเจนซี่” ตั้งแต่เริ่มตัดสินใจแต่งงาน และตัดสินใจแยกทางกัน หลังจากแต่งงานไม่ถึงปี
โดยผู้สื่อข่าว ได้เริ่มถามถึงตั้งแต่ว่า ทำไมตอนนั้นถึงได้ตัดสินใจแต่งงาน ทั้งๆ ที่กำลังโด่งดัง?
“มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า เจอกัน คบกัน ไปทำบุญ แล้วมันมีข่าวออกมา เราก็คุยกับพี่นักข่าวท่านนึงที่เราให้ความเคารพว่า ข่าวมันเป็นแบบนี้ หนูไม่โกหกนะพี่ หนูคบกันอยู่จริง พี่เขาถามจะแต่งงานกันไหม เลยบอกพี่หนูเพิ่งคบกันแปปเดียว ก็ลองดูก่อน ถ้าใช่ก็แต่ง ถ้าไม่ใช่ก็ไม่แต่ง
แต่อาจจะเป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ เป็นการพาดหัวข่าวเลยว่า จะแต่งแล้ว (หัวเราะ) หรือเราอาจจะพูดคลุมเครือ เราเลยมาคุยกัน มันเป็นข่าวแล้วทำไงดี เขาบอกไม่เป็นไรมั้ง ยังไงเราคิดว่าเราจะคบกันไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่งก็แต่ง มันเลยเป็นอะไรที่จับพลัดจับผลู แต่ก็โอเค เราก็ไม่ได้รู้สึกแย่ ไม่ได้รู้สึกว่าแอนตี้ แต่งก็ได้ เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ศึกษากันไป ใช้ชีวิตคู่กันไป ตอนนั้นประมาณ 8 เดือนต้องจบลง”
เกิดอะไรขึ้น?
“มันพูดยากเรื่องนี้ ต่อให้คนคบกันมา 10 ปี แต่งปีเดียวเลิกก็มี มันแล้วแต่ มันอยู่ที่ไลฟ์สไตล์ว่าตรงกันไหม พี่ว่าเรื่องนี้สำคัญมากนะ ถ้าตรงกันจะปรับตัวง่ายมากเลย แต่ถ้าไม่ตรงกันมันจะฝืนที่จะมาปรับตัว แรกๆ มันได้ หลังๆ อาจจะยาก ช่วงโปรฯอะไรก็ได้ แต่หลังๆ ต่างคนต่างอึดอัด กรณีของพี่มันต่างกันมากในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน ก็เลยไม่ลงตัวกัน เลยหยุดดีกว่า”
ตัดสินใจยากไหม ในยุคนั้น การแต่งงานก็เรื่องใหญ่แล้ว การแยกทางเรื่องใหญ่กว่า?
“สำหรับพี่คือยากมาก คุยกันเขาบอกเลิกไหม เราบอกอย่าเพิ่ง เอาให้มันสุดก่อน ยื้อกันอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ไม่ไหว ก็โอเคจบ ความปรารถนาต่อกันมีอยู่ แต่ความที่ต้องมาฝืนใช้ชีวิตร่วมกัน คงยากแล้ว เลยเลิก”
ณ ตอนนั้น คนที่โดนเยอะคือผู้หญิง?
“ไม่รู้ทำไม ทั้งๆ ที่คนที่โดนบอกเลิกคือเรา เราไม่ได้เป็นคนทิ้งเขา เราเป็นคนโดนบอกเลิก”
สาเหตุที่ต้องแยกทาง?
“ที่มานั่งวิเคราะห์ช่วงที่แต่งงานอยู่ด้วยกันใหม่ๆ ด้วยสถานะภาพเขาจะเป็นผู้นำครอบครัว แต่พอแต่งไปปุ๊บการงานเขาดรอปลง แผ่วลง ส่วนของเราตีขึ้น ซึ่งมันจะเป็นปกติ คนวงการบันเทิงจะขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้อยู่แล้ว
เราทำใจยอมรับได้แล้วว่าเราทำอาชีพเดียวกันนะ ถ้าคนไหนโอเคกว่า เราก็ซัพพอร์ตกัน เราคุยกันเรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหาเลย ปรากฏว่าเขาอาจจะรู้สึกว่าเขาเสียใจมั้ง ที่เขาไม่สามารถทำหน้าที่เป็นผู้นำครอบครัวที่ดี ที่สมบูรณ์แบบได้ เขาน้อยใจ หรืออาจไม่โอเค ทำไมต้องให้ผู้หญิงมาดูแล ความนับถือตัวเองอาจจะไม่โอเค เลยมีการคุยกันว่าเลิกกันเถอะ เราเข้าใจนะ ไม่เป็นไร”
จุดนั้นคือเสียใจมาก?
“ใช่ แล้วเราก็พยายามยื้อมาก ไม่เป็นไร ช่วงนี้เรามีงานเราซัพพอร์ตเต็มที่ ไม่ต้องห่วงเลย ไม่ต้องมาจ่ายให้เราแม้แต่บาทเดียว คืออยู่ด้วยกันมาไม่เคยเอาเงินพี่เขามาแม้แต่บาทเดียว มันจะมีช่วงหลังๆ ด้วยซ้ำไป ที่งานเราสลับขั่วกัน เราก็ซัพพอร์ต มันไม่ได้มีปัญหาเลย เป็นเรื่องปกติมาก แต่ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชาย อาจจะไม่โอเค อันนี้ที่เราวิเคราะห์นะ จะเป็นด้วยจุดนี้ด้วย เขาเลยขอยุติชีวิตคู่
เรื่องเงิน กระเป๋าใครกระเป๋ามันอยู่แล้ว ไม่ก้าวก่ายกัน ส่วนที่เขารับผิดชอบในฐานะหัวหน้าครอบครัว เรารับผิดชอบเรื่องบ้านเรื่องรถ แต่พอมาช่วงหลังที่มันตะกุกตะกัก เราก็เทของเราใส่เข้าไปมันก็เต็ม มันไม่มีปัญหาอะไรเลย มันเป็นความรู้สึกที่ไม่โอเค เราก็ไม่เป็นไร”
แต่เราก็ใจเด็ดเลิกก็เลิก?
“4 เดือนเลยนะ ว่าที่จะใจเด็ด เรารู้สึกว่าใจเขาไม่อยู่แล้ว เขาไม่โอเคแล้ว เขาจะอึดอัดมากขึ้นทุกวัน เราเองก็อึดอัดด้วย เพราะว่าบางทีอยู่บ้านเดียวกัน ไม่เคยคุยกันเลย เราเข้าใจทั้งตัวเราและตัวเขาด้วย ไม่เป็นไร คนที่อยู่ด้วยกันไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาฝืนทนเพื่ออะไรก็ไม่รู้ เราต่างคนต่างไป จากกันด้วยปัญญา ดีกว่าอยู่กันด้วยปัญหา ต่างคนต่างไป แล้วก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน อย่างนั้นดีกว่า”