วันที่ 2 มกราคม 2568 ที่ ภ.6 พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 มอบหมายให้ พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รอง ผบช.ภ.6 พ.ต.อ.ศาสตรา อ่อนรัศมี รอง ผบก.อก.ภ.6 และคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ จากตำรวจภูธรภาค 6 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อตรวจเส้นทางการจราจรทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1, 11, 12 และ 117 ซึ่งเป็นเส้นทางหลวงที่เชื่อมต่อการรับปริมาณรถยนต์ของประชาชนที่เดินทางกลับจากภาคเหนือ (ระลอกที่สอง) เพื่อเดินทางเชื่อมต่อไปยังภาคกลางมุ่งสู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งได้ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติที่จุดให้บริการประชาชนในเส้นทางสำคัญ และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการดำเนินการตาม “โครงการสวมหมวกนิรภัย สุขใจทุกคน” ของตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อให้ข้าราชการตำรวจและประชาชนได้ตระหนักและเสริมสร้างพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัย ลดการบาดเจ็บและสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน มีรายละเอียด ดังนี้
เวลา 13.30 น. ตรวจสภาพการจราจรบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (สุโขทัย – พิษณุโลก) และตรวจสภาพการจราจรบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ตาก-กำแพงเพชร) โดยได้ตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานและมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดบริการประชาชนหน้าศูนย์จราจร สถานีตำรวจภูธรวังเจ้า อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก มี พ.ต.อ.เทพปทาน นิพิวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตาก, ผกก.สภ.วังเจ้า และกำลังพล รับฟังคำแนะนำ พร้อมมอบหมวกนิรภัยให้แก่ประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สัญจร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไว้ใช้ให้เกิดความปลอดภัย
เวลา 15.30 น. ตรวจสภาพการจราจรบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (อุตรดิตถ์-พิษณุโลก) ปรากฏว่า การจราจรคล่องตัว ปริมาณรถไม่มาก รถเดินทางได้สะดวกเช่นเดียวกัน จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานและมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับผู้ปฏิบัติงาน ณ จุดบริการประชาชนบรมอาสน์ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ พื้นที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ มี พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ จันทร์พุฒิ รอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์, ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ และกำลังพล รับฟังคำแนะนำ พร้อมนี้ได้มอบหมวกนิรภัยให้แก่ประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไว้ใช้งานสร้างความปลอดภัยให้แก่ตนเอง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รอง ผบช.ภ.6 ได้กล่าวถึง การตรวจสภาพจราจรในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามความพร้อมการปฏิบัติงานและความคล่องตัวของการจราจรโดยเฉพาะขาล่องเพื่อรองรับปริมาณรถยนต์ของประชาชนที่จะเดินทางกลับจากภูมิลำเนา (ระลอกที่สอง) ต่อจากช่วงของวันที่ 1 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเส้นทางหลวงแผ่นดินทุกสายที่เชื่อมต่อจากภาคเหนือและปริมาณรถยนต์ของประชาชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6 ทั้ง 9 จังหวัด ปรากฎว่า การจราจรทุกเส้นทางมีปริมาณรถที่เดินทางในขาล่องมีเพิ่มขึ้น สภาพการจราจรมีความคล่องตัว จุดที่เป็นปมคมนาคมสำคัญเร่งระบายรถ ไม่มีปัญหารถติดสะสมแต่อย่างใด สามารถรองรับปริมาณรถของประชาชนที่จะเดินทางกลับในห้วงวันที่ 2-5 มกราคม 2568 ได้เป็นอย่างดี พร้อมนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับตรวจเยี่ยม สร้างขวัญกำลังใจ ตลอดจนให้คำแนะนำให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน บริหารกำลังพลให้พักผ่อนเพียงพอรองรับในการบริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเดินทางให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยทุกคนในห้วง 10 วันอันตรายที่เหลืออยู่
ทั้งนี้ ได้เน้นให้มีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อสร้างการตระหนักและเสริมสร้างพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยในการขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ตาม “โครงการสวมหมวกนิรภัย สุขใจทุกคน” ของตำรวจภูธรภาค 6 ที่ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ในโครงการนี้ได้มีการแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันรณรงค์การสวมหมวกนิรภัย ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และประชาชน โดยเริ่มต้นจากหน่วยงานต่าง ๆ อันถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ประชาชนและเป็นก้าวแรกของการสร้างวินัยจราจร จากนั้นขยายผลไปยังทุกภาคส่วน เพื่อเพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัยในสังคมโดยรวม อันเป็นการลดอัตราการบาดเจ็บและสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุของผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ สร้างความสุขใจให้แก่ตนเอง บิดามารดา บุตรหลาน ครอบครัว ชุมชนและสังคมนั่นเอง