หมอเตือน กินลูกปลาช่อน ไม่ช่วยรักษาแผลผ่าคลอด ชี้พยาธิเพียบเสี่ยงมะเร็ง
GH News January 04, 2025 04:05 AM

หมอแล็บแพนด้า ออกโรงเตือน หลังติ๊กต่อกแชร์เทรนด์ ‘กินลูกปลาช่อนสด’ อ้างสมานแผลผ่าคลอด เฉลยแล้วไม่มีประโยชน์ โทษตามมาเพียบ คุณแม่ลูกอ่อนห้ามทำตาม

เทรนด์ “การกินลูกปลาช่อนสด” ที่กำลังฮิตบนโลกโซเชียล ทำเอาบุคลากรทางการแพทย์หนักใจ จนต้องออกมาเตือนกันยกใหญ่ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำตามเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ยังสร้างโทษต่อร่างกายของแม่ลูกอ่อนจนคาดไม่ถึงด้วย

ล่าสุดเพจดังอย่าง หมอแล็บแพนด้า ก็ขอร่วมวงด้วย ออกมาเตือนภัยการกินลูกปลาช่อนสด ๆ ว่าไม่ได้ช่วยให้แผลหายเร็วอย่างที่ใครเขาว่ากัน ทั้งยังมีพยาธิเต็มไปหมด และอาจลุกลามไปจนทำให้เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้ด้วย งานนี้เรียกได้ว่าข้อดีไม่มีแต่ได้ของแถมมาเป็นอันตรายเพียบเลยทีเดียว

“กินลูกปลาช่อนแบบสด ๆ ไม่ได้ช่วยสมานแผลหลังคลอดได้เร็วขึ้น!!! นอกจากไม่ช่วยแล้วยังจะติดพยาธิใบไม้ตับไปอีก แล้วช่วงหลัง ๆ ชาวบ้านมักจะเชื่อติ๊กต็อกด้วยนะ ผมก็ชอบดูติ๊กต็อกเหมือนกัน แต่เอาไว้ดูการแพทย์ภาคพิสดารนะ 555555 มันดูย้อนยุคดี”

“ถ้าเรากินปลาที่ปรุงไม่สุกหรือกินปลาดิบ เราอาจจะเจอตัวอ่อน ‘พยาธิระยะติดต่อ’ เข้าไป แล้วเจริญเติบโตเป็นพยาธิตัวเต็มวัยในท่อน้ำดีภายในตับได้ บางคนตัวพยาธิไปอุดท่อทางเดินน้ำดีหรือถุงน้ำดีอักเสบติดเชื้อ หรือเป็นมะเร็งท่อน้ำดี (Cholangiocarcinoma) ที่จริงปลาดิบ ๆ มันมีพยาธิชนิดอื่นอีกนะ ถ้าไม่อยากมีพยาธิหรือเป็นมะเร็งก็หลีกเลี่ยง หรือเลิกกินปลาสุกๆดิบนะครับ”

ทั้งนี้จากข้อมูลเพิ่มเติมของเว็บไซต์ POBPAD ระบุว่าปลาบางชนิดสามารถกินดิบได้และมีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ต้องเป็นปลาที่สดและอยู่ในหมวดหมู่ที่รับประทานโดยไม่ผ่านการปรุงสุกได้ แต่ถึงอย่างนั้นการกินปลาดิบก็ยังคงมีโทษที่ควรระวังหลายประการ โดยเฉพาะการกินปลาที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงในแหล่งเพาะพันธุ์ที่มีคุณภาพ ทำให้เสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารพิษ เมื่อนำบริโภคจึงอาจส่งผลอันตรายต่อผู้ที่กินได้

โทษของการกินปลาดิบ

– ติดเชื้อปรสิตและแบคทีเรีย : มีงานศึกษาบางชิ้นพบว่าการกินปลาดิบอาจทำให้เกิดการติดเชื้อปรสิตได้ เช่น คนที่กินปลาน้ำจืดสด ๆ บ่อยครั้ง มักจะเจอพยาธิใบไม้ในตับ รวมถึงแบคทีเรียซาโมเนลลา (Salmonella) ที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือปวดบิด

– สารมลพิษ : สารตกค้างบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง และเบาหวาน มีการตรวจพบในเนื้อปลาดิบบางประเภท อาทิ สาร POPs (Persistent Organic Pollutants) ซึ่งมีผลวิจัยว่าค่าของสารดังกล่าวหากนำไปปรุงสุกจะมีอัตราที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้น้อยลงกว่าการกินดิบ นอกจากนี้ยังมีรายงานบางส่วนระบุว่าพบ ‘สารปรอท’ ในปลาดิบสูงกว่าปลาที่ปรุงสุก มากถึง 50 -60% ด้วย การบริโภคปลาดิบจึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคอันตราย และนำสารที่พิษเข้าสู่ร่างกายโดยไม่จำเป็น

– เสี่ยงเกิดโรคมะเร็ง : เนื่องจากพยาธิใบไม้ในตับและพยาธิตับ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับ รวมถึงมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งมีงานค้นคว้าทางการแพทย์ชี้แจงว่า การกินปลาดิบไม่ว่าจะเป็นปริมาณมากหรือน้อย ก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากพยาธิได้ หากหลีกเลี่ยงการกินปลาสด ๆ ได้ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพมากกว่า

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าการกินปลาดิบมีโทษต่อร่างกายทั้งทางตรงและทางอ้อม และสิ่งที่หมอแล็บแพนด้าออกมาเตือนก็เป็นความจริง ใครที่กำลังจะลองทำตามกระแสกินลูกปลาช่อนสด ต้องรีบหยุดความคิดโดยด่วน ถ้าหากว่าอยากหาวิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้กลับมาสวยเป๊ะอย่างรวดเร็วล่ะก็ เรารวบรวมแนวทางที่ถูกต้องและปลอดภัยมาไว้ให้แล้ว!

ข้อแนะนำในการรักษาแผลผ่าคลอด

1. บำรุงร่างกายด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์

แน่นอนว่าการกินของที่มีประโยชน์ย่อมดีต่อร่างกาย เรื่องพื้นฐานง่าย ๆ ที่คุณแม่หลังคลอดมองข้ามไป คือ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งใครที่อยากฟื้นตัวเร็ว ควรเน้นอาหารประเภทโปรตีนเป็นหลัก เพราะมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมร่างกาย และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด ของหมักดอง รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

2. ป้องกันแผลจากการโดนน้ำ : ในช่วง 7 วันแรกหลังผ่าตัดควรระมัดระวังไม่ให้น้ำโดนแผลเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึงการสัมผัสกับน้ำอาจทำให้แผลหายช้าลง หรือเกิดการอักเสบได้ ดังนั้น คุณแม่หลังคลอดต้องสังเกตบาดแผลของตัวเองให้ดี หากพบว่ามีของเหลวซึมออกมา ต้องรีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน

3. ไม่ยกของหนัก : ในระยะ 3 เดือนแรก คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการยกของที่มีน้ำหนักมาก รวมถึงกิจกรรมที่ต้องอออกแรงมากเกินไป เพราะการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้แผลถูกดึง เกิดเป็นรอยแผลเป็นนูนหรือเป็นคีลอยด์ตามมาได้ สำหรับใครที่กังวลใจในเรื่องนี้แต่ไม่อยากนอนอยู่นิ่ง ๆ ควรใส่ผ้ารัดหน้าท้องเพื่อพยุงกล้ามเนื้อขณะที่ขยับตัว ทั้งยังชวดลดอาการปวดและแรงกดทับต่าง ๆ ทำให้มีโอกาสที่แผลจะหายเร็วขึ้น

4. ทาครีมบำรุงผิว : หลังจากผ่านพ้นช่วงเฝ้าระวัง จนแผลผ่าคลอดเริ่มแห้งสนิท หรือไหมละลายจนหมด สามารถทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือ ออยล์ เพื่อทำให้ผิวไม่แห้งจนเกินไป และลดโอกาสในการเกิดรอยแผลเป็น

5. พักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนให้พอเป็นเรื่องสำคัญต่อร่างกาย พอ ๆ กับการกินอาหารที่ดี ดังนั้น นอกจากจะดูแลตัวเองภายนอกแล้ว การบริหารเวลานอนหลับให้เพียงพอก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่อาจวุ่นอยู่กับการดูแลลูกน้อย ต้องไม่ลืมที่จะสลับเวรกับสามีหรือคนใกล้ชิด เพื่อให้ตนเองมีเวลาพักผ่อนเต็มอิ่ม ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ฟื้นตัวได้ไว และแผลสมานไวขึ้นด้วย.

อ้างอิง : POBPAD , โรงพยาบาลวิมุต

ข่าวล่าสุด
© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.