บรรยากาศเศร้าโศก ภรรยาร่ำไห้ ครอบครัว-ญาติ นิมนต์พระสงฆ์ อัญเชิญดวงวิญญาณ หมวดบรรรัง กลับบ้าน ผบช.น. เป็นประธานพิธี รดน้ำศพ-สวดอภิธรรม วัดสายไหม
4 ม.ค. 68 – นางนิตยา เกษาพร อายุ 52 ปี อาจารย์สอนโรงเรียนโชคชัย รังสิต ภรรยา ร.ต.ท.บรรรัง เกษาพร รองสารวัตร(ป.) สน.สายไหม พร้อม ญาติพี่น้อง ได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป นำอาหารน้ำ และศพ ร.ต.ท.บรรรัง มาอัญเชิญดวงวิญญาณ จากร้านตัดผมสุชินบาร์เบอร์ ถนนเฉลิมพงษ์ แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุ
ก่อนที่นำร่างมาไว้ที่ศาลาเติม-อารี ทรัพย์สมบูรณ์ วัดสายไหม เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรมศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก นางนิตยา ได้ร้องไห้แล้วส่งเสียงเรียกให้ ร.ต.ท.บรรรัง กลับบ้าน จากบริเวณดังกล่าว
ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พลฑิต ไชยรส รองผบช.น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผบก.อก.บช.น. รองผบก.น.2 ผกก. สังกัด ผบก.น.2 รีวมพิธีรดน้ำศพ ร.ต.ท.บรรรัง
ด้าน พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า เมื่อวานหลังจากได้รับแจ้งเหตุ ชุดเคลื่อนที่เร็วสามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิด พล.ต.ต.อรรถพล ลงควบคุมการสอบสวนด้วยตังเอง พร้อมทั้งมีการเชิญตำรวจพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนการสอบสวนมีการวางกรอบไว้แล้ว โดยมีการระดมกำลังตรวจสอบหาพยานหลักฐานต่างๆ เก็บปลอกกระสุน กล้องวงจรปิด เป็นพยานหลักฐาน
จากการสอบถาม ผู้ต้องหานั่งเดิมสุรา บริเวณบ้านทะเลาะคนพม่า ไล่ตามมา พม่าวิ่งมาขอความช่วยเหลือแล้วหนีไป ผู้ต้องหาตามมาคนพม่าขอความช่วยเหลือ ร.ต.ท.บรรรัง และต่อว่า ขณะที่มีอาการมึนเมาให้กลับบ้านไปนอนพัก ระหว่างผู้ต้องหาหาได้วิ่งเข้าชักอาวุธปืนยิง ในช่วงที่ตำรวจไม่ทันระวัง เนื่องจากไม่เห็นมีอาวุธปืน
ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุ สั่งสอบเพิ่มเติม และได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบต่อ ผู้ที่ได้ให้ความร่วมมืออาวุธปืนนำไปซุกซ่อน หากใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้สั่งการให้ดำเนินคดีทั้งหมด เบื้องต้นตอนนี้มีผู้ร่วมกระทำการลักษณะดังกล่าว 1 คน จากการตรวจ ขณะเกิดเหตุ ร.ต.ท.บรรลัง ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้มีการชักปืน ไม่ได้ถือไว้ในมือแต่อย่างใด
“หมวดคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่เดินเท้าบริเวณชุมชนพูดคุยพี่น้องประชาชน 2 ข้างทาง ช่วงปีใหม่ สร้างความเชื่อมั่นหาข่าว มีเบาะแสป้องกันอาชญากรรม อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม
เบื้องต้นมอบเงินช่วยเหลือ จากกองทุนโพลิสอะวอด จำนวน 300,000 บาท และมีกองทุนอื่นรวมทั้งหมด 1,000,000 บ้าน ปูนบำเหน็จให้ ผบก.อก.บช.น. ดำเนินการ ส่วนยุทธวิธีมีการทบทวนอยู่ตลอด เห็นเขามีอาการมึนเมา มองไม่เห็นว่ามีอาวุธ จึงเกิดเหตุดังกล่าว
ผบ.ตร. ให้ความสำคัญยุทธวิถี ไม่ให้เกิดความสูญเสีย และความปลอดภัยประชาชน ผบ.ตร. ระดมกวาดล้างอาวุธปืน จับกุมอย่างต่อเนื่อง อาจจะเพิ่มความเข้มปิดล้อมตรวจค้นเพิ่มเติม” ผบช.น. กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติพกพา มีอาวุธปืน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกพยานที่เกิดเหตุ 8 คน มาสอบ เก็บกล้องวงจรปิด ที่เกิดเหตุยืนยันตรงกัน ส่วนกลุ่มวัยรุ่นพื้นที่ ให้ตรวจสอบประวัติคนใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุ