“พิชัย” ชูทิศทางกระทรวงพาณิชย์ปี 68 เดินหน้านโยบายรัฐบาล เศรษฐกิจการค้าไทยเข้มแข็ง เป็นธรรม โตอย่างยั่งยืน
GH News January 05, 2025 10:06 AM

“พิชัย” ชูทิศทางกระทรวงพาณิชย์ปี 68 เดินหน้านโยบายรัฐบาล ให้เศรษฐกิจการค้าไทยเข้มแข็ง เป็นธรรม โตอย่างยั่งยืน
 
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2568 กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลโดยการนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการ “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นเป้าหมายให้ “เศรษฐกิจการค้าไทยเข้มแข็ง เป็นธรรม เติบโตอย่างยั่งยืน” (“eMpower and Optimise Commerce plus Sustainable Growth” ตัวย่อ MOC+) ซึ่งกำหนดให้เป็น Motto ใหม่ของกระทรวงพาณิชย์
 
โดยกระทรวงพาณิชย์ยุคใหม่จะเน้นหลักการทำงาน “80 : 20” คือ 80% มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการและเกษตรกร และอีก 20% เน้นการกำกับดูแลเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้า ด้านการสร้างความเข้มแข็ง เริ่มจากเกษตรกร ซึ่งเป็นผู้ผลิตต้นทางจะต้องมีรายได้ที่เหมาะสม โดยกระทรวงพาณิชย์จะดูแลราคาสินค้าเกษตรและผลักดันราคาเพื่อให้เป็นปีทองของสินค้าเกษตรไทย สำหรับสินค้าที่ไทยเป็นผู้นำ อาทิ ข้าว โดยจะเปิดเสรีข้าว สนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กให้ส่งออกอย่างเต็มที่ รวมทั้งเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยใช้ประโยชน์จากการรับรองคุณภาพและอัตลักษณ์ท้องถิ่น หรือ GI ด้วย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังตั้งเป้าที่จะเป็น “คลังอาหารของโลก” (Food Storage) ในการแก้ปัญหา Food Security ให้แก่ประเทศที่มีความต้องการ ซึ่งจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสและช่วยต่อยอดไปสู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่การผลิต
 
สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs จะเน้นการปลดล็อกหรือปรับลดกฎระเบียบที่เป็นข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ และเสริมแกร่งโดยเสริมช่องทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยการสร้าง Brand เสริมด้วย Soft Power ที่โดดเด่นของไทย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สร้าง Thailand Brand ให้เป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพสินค้าไทย สำหรับสินค้า SMEs ที่ยังไม่สามารถพัฒนา Brand เป็นของตัวเองได้ นอกจากนี้ในส่วนของร้านอาหารไทยกระทรวงพาณิชย์เตรียมปรับโฉม Thai Select ให้สามารถใช้เป็นเครื่องหมายแสดงถึงคุณภาพแก่ร้านอาหารไทยทั้งในและต่างประเทศ
 
ส่วนผู้ประกอบการที่พร้อมจะส่งออก กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันการส่งออกและการค้าชายแดนโดยการบุกตลาดที่มีศักยภาพต่างประเทศ และเร่งเจรจา FTA  กับประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะ EU เพื่อใช้เป็นเครื่องมือผลักดันเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ โดยส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพื่อสร้างแต้มต่อให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ในเดือนมกราคมนี้จะมีการลงนามความตกลง FTA ระหว่างไทยกับ EFTA ที่ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ซึ่งจะเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยลงนามกับประเทศในภูมิภาคยุโรป ในช่วงการประชุม World Economic Forum ที่ดาวอส อีกด้วย
 
ขณะที่ด้านการสร้างความเป็นธรรม เน้นการกำกับดูแลให้ผู้บริโภคและเกษตรกรได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้า และการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์แล้ว จะมีการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อปกป้องผู้ประกอบการจากการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมและปกป้องผู้บริโภคคนไทยจากการที่จะต้องใช้สินค้าด้อยคุณภาพด้วย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร สคบ. สมอ. และ DSI เป็นต้น
 
ทั้งนี้ด้านการเติบโตอย่างยั่งยืน กระทรวงพาณิชย์ส่งเสริมสินค้ารักษ์โลก ลดปัญหาโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและรับผิดชอบต่อสังคม จากทิศทางและความมุ่งมั่นในการทำงานดังกล่าวข้างต้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า “กระทรวงพาณิชย์ยุคใหม่” จะเป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันเป้าหมาย MOC+ ให้เศรษฐกิจการค้าไทยเข้มแข็ง เป็นธรรม เติบโตอย่างยั่งยืนในปีนี้ได้อย่างแน่นอน

#ข่าววันนี้ #กระทรวงพาณิชย์ #การค้าไทย #เศรษฐกิจไทย #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์

 

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.