เมื่อเข้าสู่ช่วงปีใหม่ ก็เป็นอีกช่วงเวลาลุ้นระทึกสำหรับแฟนบอลว่าทีมรักจะปล่อยใครออกไปหรือเซ็นสัญญานักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพได้หรือไม่

จุดเริ่มต้นของตลาดนักเตะกลางฤดูกาลแนะนำครั้งแรกโดยเหล่าสมาคมฟุตบอลนานาชาติตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990 แต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในพรีเมียร์ลีกจนกระทั่งฤดูกาล 2002-03

แนวคิดเพื่อเป็นการหยุดเหล่าเอเย่นต์ไม่ให้ทำสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อนักเตะหากสามารถย้ายทีมกันได้ตลอดทั้งฤดูกาล ระเบียบนี้จะทำให้ผู้เล่นและสโมสรมีความมั่นคงและแน่นอนมากขึ้น อีกทั้งผู้จัดการทีมและสโมสรจะได้วางแผนการจัดการที่ชัดเจนด้วย

แน่นอนว่าแต่ละสโมสรไม่สามารถซื้อกันตามอำเภอใจชนิดไม่กลัวล่มจม พวกเขาต้องคำนึงถึงกฎผลกำไรและความยั่งยืน (PSR) ของพรีเมียร์ลีกที่ระบุว่าตลอด 3 ปี สโมสรต้องไม่ขาดทุนมากกว่า 105 ล้านปอนด์ ไม่งั้นอาจโดนลงโทษตัดแต้มเหมือนที่ เอฟเวอร์ตัน และน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เผชิญมาแล้ว

หลังจากนั้นสโมสรต้องส่งรายชื่อนักเตะในทีม สูงสุด 25 คน และอย่างน้อย 8 คนในจำนวนนี้ต้องเป็นโควต้า “โฮม โกรว์น” คือนักเตะที่ลงทะเบียนกับสโมสรในอังกฤษหรือพันธมิตรเช่น เวลส์ เป็นระยะเวลาหนึ่ง ต่อเนื่องหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อย 3 ฤดูกาล หรือ 36 เดือน ก่อนอายุครบ 21 ปี อย่างไรก็ตาม สโมสรยังคงสามารถนำผู้เล่นอายุต่ำกว่า 21 ปีขึ้นมาใช้งานได้ ถือว่าอยู่นอกข้อจำกัดด้านขนาดทีม

ที่จริงขั้นตอนซื้อขายไม่ซับซ้อนถ้าทั้งสองฝ่ายตกลงซื้อขายกันได้ จากนั้นจะตกลงเรื่องสัญญาส่วนตัว เตรียมเอกสารที่จำเป็นต่อพรีเมียร์ลีก รวมถึงรายละเอียดสัญญา ค่าตัว สุดท้ายเป็นขั้นตอนตรวจร่างกาย เซ็นสัญญาก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ตลาดปีนี้เริ่มเปิดตั้งแต่ 1 ม.ค. ยาวไปจนถึงวันที่ 3 ก.พ. เวลา 06.00 น. ตามเวลาไทย แต่สโมสรไม่จำเป็นต้องประกาศในช่วงเวลาดังกล่าว สโมสรสามารถลงนามในเอกสารข้อตกลง ซึ่งเป็นข้อความยืนยันว่าทำข้อตกลงแล้ว แต่จะซื้อเวลาเพิ่มอีกเต็มที่ 3 ชั่วโมงเพื่อสรุปเอกสารอย่างเป็นทางการอีกที

แต่ถ้าเป็นนักเตะไม่มีสังกัดสามารถย้ายทีมได้ตลอดเวลาต่อให้พ้นช่วงตลาดปิด ทว่าก็อาจลงเล่นไม่ได้อยู่ดีถ้าเลยกำหนดการลงทะเบียนนักเตะใหม่

ทั้งนี้เวลาปิดตลาดแต่ละประเทศไม่ตรงกัน เช่น อิตาลี, โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์ ปิดช้ากว่าอังกฤษ 1 วัน ดังนั้นถ้าเป็นวันที่ 4 ก.พ. ทีมจากลีกดังกล่าวยังสามารถซื้อนักเตะจากพรีเมียร์ลีกได้ แต่ทีมพรีเมียร์ลีกจะเซ็นใครไม่ได้อีกแล้ว

ตลาดช่วงนี้นับว่าสำคัญมากสำหรับบางทีม เช่น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีการเปลี่ยนโค้ชใหม่น่าจะคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งใครจะออกไป และใครจะเข้ามา.

เฮียเอง