อธิบดีกรมจัดฯ สั่งเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เคส 250 แรงงานไทยถูกหลอก ลั่นถึงขั้นถอนใบอนุญาต
GH News January 05, 2025 02:41 PM

อธิบดีกรมจัดฯ สั่งเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เคส 250 แรงงานไทยถูกหลอก ลั่นถึงขั้นถอนใบอนุญาต

จากกรณีมีกลุ่มแรงงานไทยทั้งชายหญิงเกือบ 250 ชีวิต ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการถูกหลอกไปทำงานในต่างประเทศ รวมตัวกันไปขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวนของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ระบุว่าได้ทำการโอนเงินให้กับหญิงสาวรายหนึ่ง เพื่อจะได้ไปทำงานการเกษตรและอุตสาหกรรมในประเทศปลายทางอิสราเอล แต่พอใกล้เวลาผู้เสียหายทั้งหมดไปเช็กตั๋วเดินทางกลับไม่พบข้อมูลการจองตั๋วเที่ยวบินเพื่อเดินทางแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นมีผู้เสียหายจำนวน 250 คน นั้น

ล่าสุดวันนี้ (5 มกราคม 2568) นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของผู้อำนวยการกองทะเบียน กกจ. ทราบว่าเกี่ยวข้องกับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล และ ออสเตรเลีย ที่ตกค้างอยู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เบื้องต้น ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการถูกหลอกไปทำงาน เนื่องจากไม่พบข้อมูลการขออนุญาตและการอนุมัติจาก กกจ.

“ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแรงงานผู้เสียหายทั้งหมด ร่วมกับ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบหาผู้กระทำผิดต่อไป หากพบว่า เป็นบริษัทจัดหางานที่จดทะเบียนกับ กกจ. จะมีมาตรการลงโทษ ตั้งแต่นำหลักประกันที่วางไว้ 5 ล้านบาท คืนคนงาน / พักใช้ใบอนุญาต / ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาต” นายสมชาย กล่าว

อธิบดี กกจ. กล่าวย้ำว่า ปัจจุบันยังไม่มีการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ออสเตรเลีย โดยทั้งภาครัฐและบริษัทจัดหางานที่จดทะเบียน เนื่องจากผู้ที่จะเดินทางไปทำงานประเทศนี้ ต้องผ่านมาตรฐานตามเกณฑ์ ทั้งการทดสอบภาษาและทักษะอาชีพของออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ในระดับสูง โดยแรงงานที่เดินทางไปทำงาน ต้องแจ้งการเดินทางทุกครั้ง ส่วนการจัดส่งแรงงานไทยออกไปทำงานภาคการเกษตรที่ประเทศอิสราเอล ต้องเป็นการส่งแบบรัฐต่อรัฐเท่านั้น

ดังนั้น กรณีดังกล่าวที่ไม่ได้เป็นการจัดส่งกันไปเอง ไม่ได้ผ่านรัฐ ก็เข้าข่ายเป็นการถูกหลอกลวง และหากเป็นการจัดส่งแรงงานภาคก่อสร้างไปอิสราเอล จะต้องจัดส่งโดยภาคเอกชน หรือบริษัทจัดหางานที่ออกใบอนุญาต และได้รับการอนุมัติจาก กกจ.เท่านั้น

“สำหรับผู้ที่ต้องการไปทำงานที่อิสราเอล ให้ติดตามข้อมูลและข่าวสารผ่านทาง กกจ. กระทรวงแรงงาน เพียงช่องทางเดียว อย่าเชื่อสื่อต่างๆ ที่ส่วนใหญ่เข้าข่ายหลอกลวง จึงอยากฝากประชาชนให้ระมัดระวัง เนื่องจากมิจฉาชีพมีมากในระยะเวลานี้” นายสมชาย กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายทั้งหมดนัดรวมตัวเตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนที่กองปราบปรามในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เที่ยวบินของผู้เสียหายมีการระบุเดินทางไปยังเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image
© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.