เจ็ตสกีชิงแชมป์โลกเปิดปฏิทินแข่งปี 68 ตั้งเป้านำเงินเข้าประเทศ 550 ล้าน

นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีโลก WGP#1 เปิดเผยว่า “ความสำเร็จของ WGP#1 ที่ออกไปสร้างชื่อเสียงแข่งขันบนเวทีโลก เพื่อวางกลยุทธ์ดึงดูดให้ทีมนักกีฬาทั่วโลก เดินทาง เข้ามาชิงชนะเลิศที่ประเทศไทย ซึ่งในรายการเวิลด์คัพที่จบลงไป เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยนอกจากได้สร้างชื่อเสียงขึ้นเป็นทัวร์นาเมนต์กีฬาเจ็ตสกีคุณภาพอันดับ 1 ของโลก โดยการยอมรับของนักกีฬาทั่วโลกแล้ว ยังบรรลุเป้าหมายการมีทีมนักกีฬานานาชาติเข้ามาร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจชาติรวมกว่า 490 ล้านบาท สำหรับผี 2568 WGP#1 ได้ประกาศปฏิทินการแข่งขันเจ็ตสกีอาชีพเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก หรือ เวิลด์ซีรีส์ 2025 โดยสนามที่ 1 จะจัดที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 15-18 พฤษภาคม ต่อด้วยสนามที่ 2 ประเทศเบลเยียม วันที่ 24-27 กรกฎาคม และสนามชิงชนะเลิศ ที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 17-21 ธันวาคม

นายปริเขตกล่าวอีกว่า WGP#1 ได้รับความร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะสร้างประโยชน์จากการเป็นสตาร์ตอัพ กีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้คุ้มค่าที่สุดแก่ชาติไทย เป้าหมายแรกจะใช้เวิลด์ซีรีส์แผ่กิ่งก้านความเชื่อถือที่มั่นคงของการสร้างเครือข่ายนิยมผ่านความชื่นชอบและความเชื่อถือ อันเป็นความหมายที่ชัดเจนของคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อเพิ่มยอดเงินนำเข้าจากทีมกีฬานานาชาติที่มาเมืองประเทศไทย 490 ล้านบาท เพิ่มเป็น 550 ล้านบาท ในปี 2568 การนำเข้าทีมแข่งนานาชาติระดับ 3,000 คน ซึ่งทุกคนจ่ายค่าใช้จ่ายมากันเองนั้น ไม่ใช่แค่สร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นการนำเข้าเงินตราต่างประเทศ มาให้ประเทศไทย จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ส่วนอีก 4 เรื่องที่ขยายตัวต่อยอด คือ ศูนย์กลางงานแสดงเจ็ตสกีและการจัดประชุมโลก, อุตสาหกรรมเจ็ตสกีไทยเพื่อการส่งออก, ด้านสถานีโทรทัศน์กีฬานานาชาติที่ยอมรับคอนเทนต์กีฬาไทยไปออกอากาศทั่วโลก เป็นกีฬาชนิดแรกที่ไม่ใช่มวยไทย หรือกีฬาที่มีต้นกำเนิดจากต่างประเทศ และการสร้างชื่อเสียงกีฬาไทย ขึ้นเป็นผู้นำกีฬาความเร็วแห่งพื้นน้ำของโลก

ผู้อำนวยการทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีโลก WGP#1 กล่าวปิดท้ายว่า เมื่อวงการกีฬาไทยประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าของทัวร์นาเมนต์โลก จึงกำลังมีหลายประเทศเสนอตัวเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเม้นท์ปี 2026 แล้ว เช่น ประเทศฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, จีน, เวียดนาม ฯลฯ ซึ่ง WGP#1 กำลังพิจารณาความพร้อมของประเทศเจ้าภาพ ทั้งนี้ก็เป็นเครื่องชี้วัดว่า การสนับสนุนให้กีฬาไทยสร้างการเติบโตกีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ด้านแบรนด์และคุณภาพทัวร์นาเมนต์บนตลาดโลก เท่ากับว่าประเทศไทยจะมีโอกาสสร้างสตาร์ตอัพ ด้านทัวร์นาเม้นท์กีฬาเกิดขึ้นอีกมาก ยิ่งหากมองถึงอนาคตกีฬาของชาติ การสร้างโอกาสการแข่งขันบนตลาดโลก ให้กับทัวร์นาเมนต์กีฬาไทยจะต้องเริ่มสร้างเสาเข็มที่แข็งแกร่งในวันนี้