นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกีโลก WGP#1 เปิดเผยว่า ความสำเร็จของทัวร์นาเมนต์เจ็ตสกี WGP#1 ที่ออกไปสร้างชื่อเสียงแข่งขันบนเวทีโลก เพื่อวางกลยุทธ์ดึงดูดให้ทีมนักกีฬาทั่วโลก เดินทางเข้ามาชิงชนะเลิศที่ไทย ซึ่งในรายการ “เวิลด์ คัพ 2024” ที่จบลงไป เดือน ธ.ค.67 นอกจากได้สร้างชื่อเสียงขึ้นเป็นทัวร์นาเมนต์กีฬาเจ็ตสกีคุณภาพอันดับ 1 ของโลกล้ว ยังบรรลุเป้าหมายการมีทีมนักกีฬานานาชาติเข้ามาร่วมกว่า 3,000 คน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจรวมกว่า 490 ล้านบาท

ล่าสุด WGP#1 ได้ประกาศปฏิทินการแข่งขันเจ็ตสกีอาชีพเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก หรือ เวิลด์ ซีรีส์ 2025 สนามที่ 1 ที่ญี่ปุ่น วันที่ 15-18 พ.ค.68, สนามที่ 2 ที่เยี่ยม วันที่ 24-27 ก.ค.68 และสนามชิงชนะเลิศ ที่ไทย ระหว่างวันที่ 17-21 ธ.ค.68

ทั้งนี้ ด้วยความร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสร้างประโยชน์จากการเป็นสตาร์ทอัพ กีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้คุ้มค่าที่สุดแก่ เป้าหมายแรกจะใช้ทัวร์นาเมนต์เวิลด์ซีรีส์ สร้างความเชื่อถือที่มั่นคงของการสร้างเครือข่ายนิยมผ่านความชื่นชอบและความเชื่อถือ อันเป็นความหมายที่ชัดเจนของคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อเพิ่มยอดเงินนำเข้าจากทีมกีฬานานาชาติที่มาเมืองไทย 490 ล้านบาท เพิ่มเป็น 550 ล้านบาท ในปี 2568

“การนำเข้าทีมแข่งนานาชาติระดับ 3,000 คน ซึ่งทุกคนจ่ายค่าใช้จ่ายมากันเองนั้น ไม่ใช่แค่สร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นการนำเข้าเงินตราต่างประเทศ มาให้ประเทศไทย จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ส่วนอีก 4 เรื่องที่ขยายตัวต่อยอด คือ ศูนย์กลางงานแสดงเจ็ตสกีและการจัดประชุมโลก, อุตสาหกรรมเจ็ตสกีไทยเพื่อการส่งออก, ด้านสถานีโทรทัศน์กีฬานานาชาติที่ยอมรับคอนเท้นท์กีฬาไทยไปออกอากาศทั่วโลก เป็นกีฬาชนิดแรก ที่ไม่ใช่มวยไทย หรือกีฬาที่มีต้นกำเนิดจากต่างประเทศ และการสร้างชื่อเสียงกีฬาไทย ขึ้นเป็นผู้นำกีฬาความเร็วแห่งพื้นน้ำของโลก”

สำหรับในปี 2526 มีหลายประเทศเสนอตัวเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเมนต์แล้ว เช่น ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, จีน, เวียดนาม ฯลฯ ซึ่ง WGP#1 กำลังพิจารณาความพร้อมของประเทศเจ้าภาพ ทั้งนี้ก็เป็นเครื่องชี้วัดว่าการสนับสนุนให้กีฬาไทยสร้างการเติบโตกีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ด้านแบรนด์และคุณภาพทัวร์นาเมนต์บนตลาดโลก เท่ากับว่าไทยจะมีโอกาสสร้างสตาร์ทอัพ ด้านทัวร์นาเมนต์กีฬาเกิดขึ้นอีกมาก