จากกรณีกระทรวงศึกษาฯได้ออกมาชี้แจงนโยบายว่าการจะกำหนดให้ผู้เรียนไว้ทรงผม แต่งกายแบบไหน ให้เป็นไปตามวิจารณญาณของสถานศึกษา โดยให้โรงเรียนเปิดช่องทางให้ผู้เรียนพูดคุยเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
กระทั่งต่อมานายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน แสดงความคิดเห็นผ่าน X ระบุว่า หาก ศธ. ตั้งเป้าว่าไม่ควรมีนักเรียนคนไหนที่ต้องถูกบังคับเรื่องทรงผม ผมเห็นว่าสิ่งที่กระทรวงทำอยู่ ยังแก้ปัญหาไม่ตรงจุดครับ โดยสิ่งที่กระทรวงทำ เท่ากับยกเลิกการบังคับจากส่วนกลางว่านักเรียนจะต้องมีทรงผมแบบไหน แต่เปิดช่องให้แต่ละโรงเรียนตัดสินใจเองได้ที่จะบังคับนักเรียนในโรงเรียนนั้นๆ เรื่องทรงผม
สิ่งที่กระทรวงควรทำคือ การออกมาตรฐานจากส่วนกลาง เพื่อกำหนดว่าทุกโรงเรียนจะต้องหยุดการบังคับนักเรียนเรื่องทรงผม
ล่าสุดวันที่6มค.68-นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า
กระจอกงอกง่อย
เป็น สส. สนใจเรื่องทรงผม
มันว่างมากหรือไม่มีอะไรจะทำ
นักการเมืองควรสนใจยกระดับ
มาตรฐานการเรียนการสอน
ทำยังไงเด็กไทยจะได้เก่งเหมือนท่าน
อย่าบ้าเสรีภาพบนหัว ผมสั้นผมยาว
ไม่ช่วยให้เรียนดีขึ้นหรือเลวลง
จนลืมไปแล้วอะไรควรทำก่อนทำหลัง
โรงเรียนที่ดีๆมีกฎระเบียบที่เข้มงวด
จะทำให้พ่อแม่มั่นใจว่าลูกจะไม่เสียคน
ห่วงแต่แต่งตัวหล่อๆสวยๆไม่เป็นอันเรียน
โรงเรียนเอกชนดีๆคนอยากให้ลูกเข้ารียน
ผู้ปกครองมั่นใจว่าการเรียนดี ดูแลลูกได้ดี
กฎกระทรวงจะไปบังคับเขาทำไม
โรงเรียนทหาร โรงเรียนกินนอน ต้องเข้มงวด
ระเบียบต้องเป๊ะ ไม่งั้นเอาไม่อยู่ ปกครองกันไม่ได้
ห่วงแต่นักเรียนนอก ตัวเป็นไทยใจเป็นฝรั่ง
ภาษาอาจดี แต่ไม่เป็นไทย ซึมซับตะวันตก
ไม่เห็นหรือตะวันตกกำลังล้มละลาย
หลายประเทศกำลังขอเป็นรัฐที่ 51 ของเมกา