พายุหิมะถล่มสหรัฐ หนักสุดรอบ 10 ปี กระทบคนกว่า 60 ล้าน ประกาศภาวะฉุกเฉิน 7 รัฐ 

ชาวอเมริกันมากกว่า 60 ล้านคนในกว่า 30 รัฐโดยเฉพาะพื้นที่ตอนกลางของประเทศ กำลังเผชิญกับพายุฤดูหนาวครั้งรุนแรงที่สุด เมื่อวันที่ 5 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งทำให้มีหิมะตกหนักและอุณหภูมิที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 10 ปี จากปรากฎการณ์ลมหมุนขั้วโลกที่พัดพาเอาอากาศหนาวเย็นลงมาจากขั้วโลกเหนือ

FlightAware เว็บไซต์ตรวจสอบการจราจรทางอากาศรายงานว่า มีการยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 2,200 เที่ยวบินและล่าช้ากว่า 25,000 เที่ยวบิน ขณะเดียวกันมีรายงานว่าถนนหลายสายถูกตัดขาด โรงเรียนพากันปิดทำการอันเป็นผลจากสภาพอากาศที่เลวร้าย เนื่องจากพายุหิมะ น้ำแข็ง ลมกระโชกแรง และอุณหภูมิที่ลดต่ำลงทำให้สภาพการเดินทางค่อนข้างอันตรายในตอนกลางของสหรัฐ

ในเบื้องต้นมีรัฐ 7 รัฐที่ประกาศภาวะฉุกเฉิน ประกอบด้วย แคนซัสและมิสซูรี ที่พายุหิมะทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเป็นศูนย์ นอกจากนี้ยังรวมถึงรัฐเคนตักกี้ เวอร์จิเนีย เวสต์เวอร์จิเนีย อาร์คันซอ และบางส่วนของนิวเจอร์ซี

หิมะและน้ำแข็งปกคลุมถนนสายหลักเกือบทั้งหมดในแคนซัส เนบราสกาตะวันตก และบางส่วนของอินเดียนา ทำให้หลายรัฐต้องทำการเรียกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิให้ช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่บนถนน

กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐระบุว่า พื้นที่ในตอนกลางของประเทศที่มีหิมะตกหนัก ซึ่งอาจจะมากที่สุดในรอบ 10 ปี ด้านสำนักงานบริการฉุกเฉินแห่งชาติของสหรัฐเตือนว่า น้ำแข็งอาจมากถึงครึ่งนิ้วในบางพื้นที่ และยังมีต้นไม้ล้มเสียหายเป็นวงกว้างจากลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นเวลานาน

คาดว่าสภาพอากาศน่าจะเริ่มคลี่คลายลงในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม โดยพายุรุนแรงจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออก

วอชิงตันโพสต์รายงานว่า พื้นที่รอบๆ วอชิงตันอาจมีหิมะตกสูงถึง 10 นิ้วในช่วงคืนวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์ ซึ่งอาจส่งผลให้การเดินทางเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายและอาจต้องทำการปิดเมือง

สถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ภารกิจของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐซับซ้อนขึ้น เพราะตามรัฐธรรมนูญต้องมีการประชุมกันรัฐสภาสหรัฐในวันที่ 6 มกราคม เพื่อรับรองผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในรายการ Fox News Sunday ว่า “ไม่ว่าเราจะเผชิญกับพายุหิมะหรือไม่ เราก็ไม่สามารถเลื่อนการรับรองนั้นออกไปได้ ผมหวังว่าเราจะมีผู้เข้าร่วมครบทุกคน”

ทั้งนี้ การประชุมร่วมกันของสองสภามีกำหนดจะจัดขึ้นในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 6 มกราคม ตามเวลาในสหรัฐ