วันที่ 8 ม.ค.2568 เวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมได้เปิดให้สส.หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ โดยนายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ฝากไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)และ กสทช.ว่า ปัญหาแก๊งค์คอลเซนเตอร์ที่เขย่าขวัญประชาชนจนเดี๋ยวนี้ ตนคิดว่าจะกลายเป็นเรื่องที่สองของประเทศไทยเหมือนกับยาเสพติด เรารบแพ้ยาเสพติด ตนเห็นว่ารัฐบาลเปิดศึกกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เอาจริงเอาจังมาตลอดจนถึงวันนี้ปรากฎว่าแนวโน้มเรากำลังจะแพ้แกงค์คอลเซ็นเตอร์
“ก่อนปีใหม่ผมก็โดน หลังปีใหม่ผมก็โดน รวมโทรศัพท์ที่เข้ามาแต่ละวันจนไม่กล้ารับโทรศัพท์ เป็นเบอร์ที่ไม่ใช่เบอร์จากประเทศที่เราต้องกังวล เดี๋ยวนี้ขึ้นเบอร์ 02 โทรมาที่ผม เมื่อผมได้เบอร์ก็จดเบอร์ไว้ ซึ่งเป็นเบอร์รูปแบบเดียวที่ใช้ภายในประเทศ ผมก็จำได้ว่าเคยมีหน่วยงานราชการมาบอกว่าถ้าโดนกรณีอย่างนี้ให้โทรไปที่ 1144 ผมก็โทรไปขอให้ช่วยตรวจสอบดูว่าเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว เป็นเบอร์ใครมาจากไหน คำตอบที่ได้ก็คือตรวจสอบไม่ได้ ถ้าประธานอยู่ในภาวะอย่างนี้ หน่วยราชการใดไม่สามารถตรวจสอบโทรศัพท์ที่โทรเข้าไปหาแล้วก่อกวนในทำนองแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ผมคิดว่าต่อไปประชาชนก็ไม่มีสิทธิ์รับโทรศัพท์เลย”นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวว่า กสทช.ซึ่งเป็นผู้จ่ายเบอร์โทรศัพท์ ต้องรู้ว่าหมายเลขทุกหมายเลขต้องขึ้นทะเบียน เพราะแม้แต่หมายเลขของตนก็ยังขึ้นทะเบียนแล้วมนุษย์ประหลาดประเภทไหนที่ไม่ขึ้นทะเบียน ที่ผ่านมาจับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ได้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จนเดี๋ยวนี้สอบใครไม่ได้ เพราะบอกว่าแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์นครฯโทรไปหลอกคนจีนกับคนรัสเซีย แต่ที่แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อยู่กันทั้งหมดคนไทยโดนทุกวัน ดังนั้นตนขอคำตอบจาก กระทรวงดิจิทัลฯ สตช. และกสทช.จะจับมือกันหาเบอร์โทรประหลาดที่ไปข่มขู่ชาวบ้านทั่วประเทศ จบมือดมได้หรือยัง ใครเป็นคนให้มือไป ไปซื้อมาจากไหนที่ละ 1 พันถึง1 หมื่นเบอร์ โดยเป็นเบอร์ที่โทรออกได้อย่างเดียวโทรเข้าไม่ได้ ซึ่งตนอยากได้คำตอบจากทั้ง 3 หน่วยงานเป็นเอกสารผ่านประธานสภาฯมาด้วย