ผบช.สอท. สั่งการตร.ไซเบอร์ บุกทลายเว็บพนันออนไลน์ “บางกอก 198” พร้อมรวบตัวผู้บริหารการเงิน และยึดทรัพย์กว่า 10 ล้านบาท จ่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่ม 4 ราย

วันที่ 8 มกราคม 2568 ตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.3 ตรวจพบเว็บไซต์การพนันออนไลน์ชื่อ “บางกอก 198” เปิดให้ลักลอบเล่นการพนันประเภทพนันทายผลบอลออนไลน์ สล็อทแมทชีนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ รูเล็ตออนไลน์ ไฮโลออนไลน์ สลากกินรวบออนไลน์ หวยยี่กีออนไลน์ ทายผลหวยต่างประเทศออนไลน์ และการพนันทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ จำนวนหลายประเภท

หลังจากทำการรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ “บางกอก 198” จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา จำนวน 4 คน ได้แก่ นายสิทธิเดช ผู้บริการการเงินของเว็บดังกล่าว และบัญชีม้าอีก 3 ราย ได้แก่ นายภาคภูมิ, นายสุชิน และนายวันชัย ต่อมาจากการสืบสวนพบว่า นายสิทธิเดช ได้หลบมา พักอาศัยอยู่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตำรวจไซเบอร์จึงขออนุมัติหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว

จากการตรวจค้นพบ น.ส.จุฑามาศ พี่สาวของ นายสิทธิเดช แสดงตัวเป็นผู้ดูแลบ้านและนำตรวจค้น พบสิ่งของและรถยนต์รวมจำนวน 33 รายการ อาทิ รถยนต์ 2 คัน, สมุดบัญชีธนาคารต่าง ๆ, บัตรกดเงินสด และอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นของ นายสิทธิเดช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบว่า นายสิทธิเดชฯ พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 8 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงได้ยื่นคำร้องขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดพิษณุโลกเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจค้น พบ น.ส.กาญจนาฯ แสดงตนเป็นผู้ครอบครองและเจ้าบ้าน และพบ นายสิทธิเดช พร้อมตรวจยึดของกลาง เงินสด 9.4 ล้านบาท, รถยนต์ 1 คัน และอื่นๆ รวม 35 รายการ เพื่อทำการตรวจสอบ

จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเว็บไซต์พนันออนไลน์ “บางกอก 198” เปิดมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดสามารถจับกุม นายสิทธิเดชฯ หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศ โฆษณา หรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาต จากเจ้าพนักงาน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” นำตัวมาสอบสวนต่อที่ กก.1 บก.สอท.3 และจะได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

FB ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.