‘พิชัย’ เตรียมบินไปสหรัฐ ก.พ. 68 ล้อบบี้ระงับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย แย้มส่งออกไทย ต.ค.ขยายตัว 2 หลัก
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประธานเจ้าหน้าที่บริหารสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (Ambassador Ted Osius) และคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (USABC) กว่า50 คน จากบริษัทชั้นนำของสหรัฐ อาทิ Amazon, Apple, Boeing, Citi, Google, Mastercard และ Seagate เข้าพบที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า นักลงทุนจากสหรัฐแจ้งว่าจะเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นโดยย้ายเข้ามาราว 30-40% แล้ว เช่น ซีเกต กูเกิ้ล เฮชพี โดยเฉพาะการย้ายฐานมาไทยก โดยในอนาคตไทยจะกลายเป็นศูนย์การผลิต PCB ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะนี้ถือว่าไทยกลับมาฮ็อตและได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติอีกครั้ง
ทั้งนี้ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ตนจะเดินทางไปยังสหรัฐ เพื่อพบหารือกับคณะผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐ อาจมีโอกาสพบปะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือ ถ้ามีโอกาสดีอาจจะได้พบกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยฝ่ายไทยจะใช้เป็นเวทีชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีไทยเกินดุลการค้าสหรัฐ ให้ฝ่ายสหรัฐรับทราบว่า สาเหตุที่ไทยเกินดุลสหรัฐ ไม่ได้เกิดจากประเทศไทยมีกำไรจากการค้ากับสหรัฐอเมริกา แต่เกิดจากไทยมีการส่งออกสินค้าของสหรัฐ ที่มีฐานการผลิตในไทย ดังนั้นสหรัฐ ไม่ควรพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย เพื่อแก้ปัญหาการขาดดุลการค้ากับไทยรวมทั้งหากสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าจากไทยอาจจะกระทบการลงทุนของสหรัฐเองมั่นใจว่าสหรัฐจะรับฟังและเข้าใจ นอกจากนี้จะขอให้สหรัฐปลดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List) ด้านทรัพย์สินทางปัญญา และพิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิ GSP ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็ว
นายพิชัย กล่าวกรณีภาคเอกชนเสนอให้ฟื้นการจัดทำเอฟทีเอไทยกับสหรัฐ นั้น คาดว่าคงจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐ มีนโยบายหยุดการเจรจาเอฟทีเอกับทุกประเทศเป็นการชั่วคราวตั้งแต่สมัยรัฐบาลโจ ไบเดน โดยไทยจะเร่งเดินหน้าจัดทำเอฟทีเอกับประเทศอื่น อาทิ เขตการค้าเสรีไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ที่ประกอบด้วยประเทศไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ คาดจะปิดดีลได้เดือนมกราคม 2568 และจะมีอีกหลายกรอบตามมา เช่น FTA ระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) FTA ไทย – สหภาพยุโรป เป็นต้น
“ภาพรวมการส่งออกไทยในปี 2567 มั่นใจว่าการส่งออกจะโตเกินเป้า 1-2% โดยพบว่าการส่งออกไทยในเดือนตุลาคม 2567 เติบโตดีมากเป็นตัวเลข2หลัก” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวว่า สำหรับสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าลำดับที่ 2 ของไทยรองจากจีน โดยการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯมีมูลค่า 67,659.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 3.65 ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 1 ของไทย โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 48,352.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 1.72 ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯช่วง 9 เดือนแรกปี 2567 มีมูลค่า 55,681.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 9.84 ซึ่งไทยส่งออกไปสหรัฐฯมีมูลค่า 40,610.98 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 12.48 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ก๊าซธรรมชาติ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 26 พฤศจิกายน กระทรวงพาณิชย์ จะมีการแถลงตัวเลขการส่งออกเดือนตุลาคม 2567 และทิศทางที่เหลือปี 2567