ลูกศิษย์-ปชช. อาลัย อ.สุนทรี สังข์อยุทธ์ ปราชญ์เมืองตรัง จากไปอย่างสงบในวัย 73
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ในโลกโซเชียลมีเดียของบรรดาชาวตรัง โดยเฉพาะกลุ่มนักคิดนักเขียน กวี ครู อาจารย์ และนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ล้วนต่างโพสต์ข้อความพร้อมภาพ เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของ อาจารย์สุนทรี สังข์อยุทธ์ อดีตหัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง ที่จากไปอย่างสงบในวัย 73 ปี เมื่อเวลา 01.06 น. ย่างเข้าสู่วันที่ 8 มกราคม 2568 ระหว่างเข้าพักรักษาภายหลังเกิดอุบัติเหตุจมน้ำสระว่ายน้ำทุ่งแจ้ง เทศบาลนครตรัง ซึ่งเจ้าตัวได้ไปว่ายน้ำออกกำลังกาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 ธันวาคม 2567 รวมระยะเวลาเข้ารักษาตัวนาน 15 วัน
โดยก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กของนางจิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ชาวตรัง ได้โพสต์ภาพคู่กับอาจารย์สุนทรี พร้อมระบุข้อความว่า “ปีใหม่ถ้าขอพรวิเศษได้ ขอเพียงให้อาจารย์สุนทรี ปราชญ์คนดีศรีเมืองตรัง ตื่นมาลุกนั่งเสวนา พาชมแหล่งประวัติศาสตร์วาดฝัน สร้างสรรค์องค์ความรู้ กอบกู้ภูมิปัญญา เหมือนที่เคยทำมา ทั้งเรื่องทอผ้านาหมื่นศรี ควนธานีกันตัง ยางต้นแรก เรือนพระยารัษฎา ภาพเก่าเล่าที่มา ค้นหาข้อมูลอ้างอิงฯลฯ … ทุกสิ่งที่พี่บุกเบิกมา ภารกิจและญาติมิตรทั้งมวล ล้วนรอท่า คนกล้านำพาก้าวต่อไป ญาติมิตรศิษย์สหายที่ตรังคงทราบกันแล้วว่า เมื่อสามสี่วันก่อนพี่สุนทรี สังข์อยุทธ์ อดีตผอ.หอจดหมายเหตุตรัง กรมศิลปากร เกิดอุบัติเหตุ ไม่ทราบว่าตะคริวจับหรือวูบหมดสติจมน้ำขณะออกกำลังกายในสระตื้นๆ กว่าจะช่วยขึ้นมาได้ สมองขาดออกซิเจนนานเกินไป ตอนนี้ยังหลับอยู่ในโรงพยาบาล.. เราได้แต่อธิษฐานว่าปาฏิหาริย์จะมีจริง” โดยมีผู้เข้ามาคอมเมนต์แสดงความห่วงใย ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ และส่งกำลังใจเป็นจำนวนมาก
วันเดียวกัน เฟซบุ๊กของนางจิระนันท์ พิตรปรีชา กวีซีไรต์ชาวตรัง ได้โพสต์อีกว่า “หนึ่งปีผ่านพ้น อีกหนึ่งคนจากไป “สุนทรี สู่ห้วงกาลสายธารทิพย์ บนฟ้าลิบกะพริบพราวดาวดวงใหม่ ร้อยลำนำอำลาเอ่ยอาลัย ยามจากไกลฝั่งพื้นดิน สิ้นสุนทรี ด้วยรักและอาลัย “พี่สุน” Suntaree Sungayut-จิระนันท์ พิตรปรีชา” (บทกวีอาลัยปรกติจะเขียนเพียง 4-8 วรรค ให้เฉพาะคนรู้จักรักสนิทกันเท่านั้น.. แต่บทนี้จบไม่ลง เพราะพี่ไม่ใช่แค่เพื่อน แต่เป็นขุมทรัพย์คลังปัญญาวิชาการ ประวัติศาสตร์พื้นถิ่นใต้ และสะเทือนใจทึ่พี่จากไปด้วยอุบัติเหตุสุดคาดคิด”
ต่อมาเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายวิสุทธิ์ ขาวเนียม กวีรางวัลศิลปาธร ชาวตรัง ได้โพสต์ระบุ “ครูสุนทรี สังข์อยุทธ์ อดีตหัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติฯเดินทางไกล ไปลับแล้ว น้อมส่งพี่ด้วยความเคารพและอาลัย เรียนเชิญท่านที่นับถือรดน้ำศพที่วัดกุฏินอก วันที่ 9 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. ครับ”
รวมทั้งเฟซบุ๊กลุกศิษย์ ญาติ เพื่อนผองน้องพี่ และเฟซบุ๊กชาวตรังจำนวนมาก ต่างก็โพสไว้อาลัยเช่นกัน โดยนายวิสุทธิ์ ขาวเนียม กวีรางวัลศิลปาธร ชาวตรัง ได้โพสต์บทกวี ชื่อ “โลกละมุน’สุนทรี’งามชีวิต” ความตอนหนึ่งว่า “แว่วยินเสียงคร่ำครวญของมวลคลื่น หนาวน้ำตาในผ้าผืนนาหมื่นศรี ภูบรรทัดหมองหม่นรับต้นปี โอ้ ละมุน’สุนทรี’ล่องลี้ไกล สิ่งปรากฏงดงามเนื้อนามรูป เพียงชั่ววูบลมหวิวพลันปลิวไหว บุหงาหอมซึ้งทั่วห้วงหัวใจ ท้องฟ้าเรียกกลับไปไม่กลับมา”
โดยมีผู้เข้ามาแสดงความอาลัยและเชิดชูคุณงามความดีในฐานะนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นผู้มีจิตใจเมตตาแก่บ้านเมืองและเหล่าลูกศิษย์ลูกหา เป็นจำนวนมาก อาทิ “งานสุดท้ายของท่าน คือการให้ความเมตตาให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ จุดกำเนิดงานฉลองรัฐธรรมนูญ ของจังหวัดตรังค่ะ” , “นี่คือสัจธรรมครับทุกคนเมื่อถึงเวลาอันควรก็ต้องพักผ่อนชั่วนิรันดร์..คงเหลือไว้แค่คุณงามความดีให้คนรุ่นหลังได้คิดถึงครับ” , “ไม่มีใครสังเกตเห็นตอนกำลังจมเลยเหรอคะ” , “เป็นบุคลากรทรงคุณค่าสำหรับภาษาไทยใน จ.ตรัง โดยเฉพาะ กาพย์ โคลง กลอน , เสียดาย หาบุคลากรอย่างนี้ยาก ขอร่วมไว้อาลัยเป็นนิรันดร์ ด้วยจิตคารวะ” , “ท่านเป็นเก่งด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่นตรัง เสียใจด้วยครับ” , “เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่” , “ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดญาติได้แจ้งกำหนดการบำเพ็ญกุศล ระบุ “ครูสุนทรี สังขอยุทธ์ เสียชีวิต วันพุธที่ 8 มกราคม 2568 เวลา 1.06 น. ที่โรงพยาบาลตรัง ญาติเตรียมรดน้ำศพที่วัดกุฏยาราม(วัดกุฏินอก) ภายในเขตเทศบาลนครตรัง ในวันที่ 9 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. กำหนดการฌาปนกิจศพ เริ่มงานวันที่ 9-11 มกราคม 2568 วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 ประชุมเพลิง ณ เมรุวัดกุฏยาราม
ทั้งนี้อาจารย์สุนทรี ปัจจุบันอายุ 73 ปี ถือเป็นปูชนียบุคคลด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เดิมรับราชการครู แต่ด้วยมีความรักและสนใจค้นคว้างานด้านประวัติศาสตร์ จึงเข้ารับราชการหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง จนรับตำแหน่งหัวหน้าหอจดหมายเหตุฯ ทุ่มเททำงานศึกษา ค้นคว้า เผยแพร่ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนเป็นที่รักและเคารพของบรรดาข้าราชการ ลูกศิษย์ลูกหาที่เข้ามาขอความรู้โดยไม่เคยได้รับการปฏิเสธ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังงานสำคัญด้านประวัติศาสตร์เมืองตรังและภาคใต้มากมาย อาทิ งานวิจัยรวบรวมประวัติความเป็นมาและลวดลายของผ้าทอนาหมื่นศรี ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งมีอายุเก่าแก่นับร้อยๆปี , งานรวบรวมประวัติศาสตร์เมืองตรัง เมืองเก่ากันตัง เหมือนเก่าควนธานี เมืองเก่าทับเที่ยง , รวบรวมประวัติศาสตร์พระยารัษฎาฯ อดีตเจ้าเมืองตรังนักพัฒนา ผู้นำต้นยางพารามายังประเทศไทยเป็นคนแรก , งานก่อตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านพระยารัษฎาฯ พร้อมอบรมเยาวชนให้เป็นยุวชนลูกหลายพระยารัษฎาฯ นำบรรยายพิพิธภัณฑ์ , งานรวบรวมประวัตินักคิด นักเขียน นักกวี ชาวตรัง อดีต-ปัจจุบัน , งานข้อมูลประกอบนิทรรศการประวัติศาสตร์ท้องถิ่น , งานเอกสารจดหมายเหตุฯ , เป็นผู้รวบรวมเอกสารข้อมูล เพื่อจัดทำหอเกียรติยศ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีชาวตรัง เป็นต้น การจากไปของอาจารย์สุนทรี จึงถือเป็นการสูญเสียนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอันเป็นที่รักยิ่งของชาวตรังไปอีกท่านหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับรายละเอียดของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ จากทั้งผู้อยู่ในเหตุการณ์ หรือ จากญาติแต่อย่างใด แต่ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนสภ.เมืองตรัง ภายใต้การอำนวยการของพ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเก็บพยานหลักฐาน ทั้งจากภาพจากวงจรปิด ตลอดจนสอบปากคำญาติและผู้อยู่ในเหตุการณ์ไว้ทั้งหมดแล้ว