เปิดรายละเอียดเบื้องต้น โครงการบ้านเพื่อคนไทย ทั้งแบบ-ราคา 3 ทำเล ดีเดย์ 20 ม.ค.นี้ เริ่มที่โซนบางซื่อ กม.11
มติชนเผยรายงานข่าวจากบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวถึงโครงการบ้านเพื่อคนไทย ผ่อนเดือนละ 4,000 บาทว่า ในวันที่ 20 มกราคม 2568 จะเปิดตัวโครงการบ้านเพื่อคนไทย ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยจะเปิดตัวสำนักงานขาย ห้องตัวอย่าง ซึ่งในระยะแรกจะดำเนินการ 4 ทำเล หลังพิจารณาปัจจัยความพร้อมด้านกายภาพ สาธารณูปโภค เศรษฐกิจและสังคม พบว่าพื้นที่บางซื่อ กม.11 พื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่เชียงราก และพื้นที่ธนบุรี มีความพร้อม ความเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นโครงการระยะแรก
“เป้าหมายของโครงการนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มอัตราการมีที่อยู่อาศัยให้คนไทย ในกลุ่มวัยเริ่มทำงาน กลุ่มวัยทำงานระหว่างเจนเอ็กซ์และเจนวาย โดยผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,000 บาท ไม่มีเงินดาวน์” รายงานข่าวกล่าว
รายงานข่าวกล่าวว่า รายละเอียดเบื้องต้นที่บริษัทศึกษา พื้นที่บางซื่อ กม.11 มีเนื้อที่กว่า 15 ไร่ อยู่ซอยวิภาวดี 11 ติดถนนกำแพงเพชร ห่างสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กม. เซ็นทรัล ลาดพร้าว 500 เมตร MRT พหลโยธิน 500 เมตร เป็นอาคารชุด จำนวน 1,232 ยูนิต มีขนาด 30 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคา 1.76 ล้านบาท ขนาด 40 ตร.ม. ราคา 2.36 ล้านบาท ขนาด 45 ตร.ม. ราคา 2.65 ล้านบาท ขนาด 50 ตร.ม. ราคา 3 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่เชียงใหม่ เนื้อที่กว่า 7 ไร่ ใกล้ถนนเจริญเมือง ถนนทุ่งโฮเต็ล ห่างจาก ม.พายัพ 2.6 กม. ม.เชียงใหม่ 7.5 กม. ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ 1.3 กม. เป็นอาคารชุด จำนวน 720 ยูนิต ราคา 1.5 ล้านบาท
พื้นที่เชียงราก เนื้อที่กว่า 18 ไร่ ห่างจากสถานีรถไฟเชียงราก ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 4.4 กม. ม.กรุงเทพ 9 กม. เป็นอาคารชุด จำนวน 1,795 ห้อง ราคา 1.34 ล้านบาท และพื้นที่ธนบุรี อยู่ตรงข้ามตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีส้ม 800 เมตร เนื้อที่กว่า 23 ไร่ ยังไม่สรุปเนื่องจากต้องศึกษาเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นพัฒนาเป็นอาคารชุด ประมาณ 2,100 ห้อง
“วันที่ 20 มกราคมนี้ นอกจากเปิดตัวแล้ว จะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนจองโครงการบางซื่อ กม.11 เป็นโครงการนำร่อง” รายงานข่าวกล่าว
รายงานข่าวกล่าวว่า ทั้ง 3 ทำเลคาดจะใช้เงินลงทุนกว่า 4,685 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.ค่าเช่าพื้นที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กว่า 100 ล้านบาท 2.ค่าดำเนินการระยะก่อนงานก่อสร้างโครงการกว่า 260 ล้านบาท เช่น ค่าที่ปรึกษาด้านออกแบบ ค่าใช้จ่ายในกระบวนการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ค่าประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) การเตรียมความพร้อมสำหรับการก่อสร้าง 3.ค่าก่อสร้างอาคาร สาธารณูปโภค และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกว่า 3,459 ล้านบาท และ 4.ค่าดำเนินการอื่น ๆ กว่า 864 ล้านบาท
“สำหรับแหล่งเงินทุนในการพัฒนาโครงการจะประสานกับธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน เพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับพัฒนาโครงการ รวมถึงปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนด้วย อย่างเช่น ธอส.มีสินเชื่อดอกเบี้ย 2.5% คงที่ 25 ปี จะสามารถผ่อนได้เดือนละ 4,000 บาท เป็นต้น” รายงานข่าวกล่าว
นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับโครงการบ้านเพื่อคนไทย ที่รัฐบาลเตรียมจะผลักดันออกมาในวันที่ 20 มกราคมนี้ เพื่อสนับสนุนคนมีบ้านอยู่อาศัยในราคาที่ไม่สูงมาก และยังอยู่ในทำเลใกล้เมือง รถไฟฟ้า การเดินทางสะดวก แต่อยากให้ภาครัฐมีการวางกรอบผู้ได้สิทธิในการซื้ออย่างชัดเจนและรัดกุม ต้องเป็นผู้มีรายได้น้อยจริง ๆ คนซื้อและคนอยู่เป็นคนเดียวกัน เพื่อป้องกันนักลงทุนที่เห็นโอกาสมาใช้สิทธิในการซื้อและนำไปปล่อยเช่าช่วงต่อ