เป็นเพราะทุกวินาทีคือการทำงานเพื่อให้สมกับคำประกาศ “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน”
ล่าสุด ณ ต้นปี 2568 “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม พร้อมกำชับเร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จตามแผน ห้ามล่าช้า เพื่อยกระดับศักยภาพการขนส่งทางราง เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค เชื่อเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของการค้าชายแดนในอนาคต
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ปี 2558-2565
ประวัติความเป็นมาโครงการนี้ ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 มีเป้าหมายในการพัฒนาระบบขนส่งทางรางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยจะมีเส้นทางผ่าน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม
จึงถือเป็นเส้นทางสำคัญที่ช่วยยกระดับศักยภาพการขนส่งทางรางทั้งผู้โดยสารและสินค้าภายในภูมิภาค และยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าชายแดนในพื้นที่อีกด้วย จุดเน้นย้ำเป็นพิเศษอยู่ที่ได้กำชับให้เร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จตามแผน และห้ามล่าช้า เพื่อช่วยยกระดับเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่และเศรษฐกิจของประเทศ
ด้าน “วีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้ การออกแบบมีระยะทางรวม 354.783 กิโลเมตร วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 66,848.33 ล้านบาท แบ่งการบริหารจัดการออกเป็น 2 สัญญา ได้แก่
“สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก” ระยะทาง 177.50 กิโลเมตร และ “สัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ” ระยะทาง 177.28 กิโลเมตร
โดยจุดเริ่มต้นของโครงการ ปักหมุดเริ่มกันที่สถานีบ้านไผ่ และมีปลายทางจุดสิ้นสุดโครงการที่สถานีสะพานมิตรภาพ 3 ซึ่งประกอบด้วยสถานีรถไฟทั้งหมด 18 สถานี ป้ายหยุดรถไฟ 12 แห่ง ทางรถไฟระดับพื้นดิน 346 กิโลเมตร และทางรถไฟยกระดับ 9 กิโลเมตร (ช่วง อ.เมือง จ.มหาสารคาม 4 กิโลเมตร และ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด 5 กิโลเมตร)
นอกจากนี้ ยังมีย่านกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard) 3 แห่ง (สถานีร้อยเอ็ด สถานีสะพานมิตรภาพ 2 และ 3) รวมถึงลานบรรทุกตู้สินค้า (Loading Yard) 3 แห่ง (สถานีภูเหล็ก สถานีมหาสารคาม และสถานีโพนทอง)
สำหรับสถานะโครงการในปัจจุบัน มีความคืบหน้าการก่อสร้างทั้งโครงการ ดังนี้
แผนงานก่อสร้างสะสม 38.678% และผลงานก่อสร้างสะสม 9.760% โดยแบ่งเป็นสัญญาที่ 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก มีความคืบหน้าแผนงานก่อสร้างสะสม 40.443% และผลงานก่อสร้างสะสม 19.292% และสัญญาที่ 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ มีความคืบหน้าแผนงานก่อสร้างสะสม 36.989% และผลงานก่อสร้างสะสม 0.636%
ในอนาคต เมื่อโครงการดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่าในปี 2570 จะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้มากกว่า 3.8 ล้านคนต่อปี อีกทั้งรองรับปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 700,000 ตันต่อปี
ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางบนเส้นทางสายใหม่ด้วยรถไฟที่มีความรวดเร็วและปลอดภัย ช่วยพัฒนาศักยภาพการขนส่งทั้งในด้านโลจิสติกส์และการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการลงทุนในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม สร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการค้าและการท่องเที่ยวระดับโลก โดยเฉพาะในจังหวัด “มุกดาหาร-นครพนม” ยกระดับให้กลายเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของการค้าชายแดนในอนาคต