ข่าวร้ายหลังคืนลอยกระทง พบพะยูนทะเลตรังเกยตื้นตายเพิ่มอีก นับตัวที่ 4 ในรอบเดือน’เฉลิมชัย’ลงพื้นที่ดันฟื้นหญ้าทะเล 7 ธ.ค.นี้ นักวิชาการ-นักอนุรักษ์ ระดมคลังสมองกู้วิกฤต
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ว่า จากสถานการณ์วิกฤตชีวิตพะยูน ซึ่งทยอยตายลงอย่างต่อเนื่องภายในสัปดาห์เดียวกว่า 3-4 ตัว โดยเฉพาะพื้นที่ทะเลจังหวัดภูเก็ต ซึ่งพะยูนฝูงสุดท้ายของประเทศไทยได้อพยพออกจากทะเลจังหวัดตรังหนีวิกฤตขาดแคลนหญ้าทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารเดียวของพะยูน ขึ้นไปทางเหนือของทะเลอันดามัน จนถึงพื้นที่ทะเลจังหวัดภูเก็ต โดยมีการพบเห็นพะยูนทั้งบริเวณหาดราไวย์ , ป่าคลอก เป็นต้น โดยล่าสุดเกิดเหตุสะเทือนใจเมื่อพบซากพะยูนถูกตัดหัวลอยเน่าในพื้นที่ป่าคลอก จังหวัดภูเก็ตนั้น
.
ล่าสุดบรรยากาศที่จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่เขตอนุรักษ์พะยูนมาอย่างยาวนาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชนด้านอารอนุรักษ์ ได้ตั้งวงหารือกันอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง , มูลนิธิอันดามัน และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิจัย วิทยาเขตตรัง นำโดยนายไพฑูรย์ แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล , นายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 7 , นายสันติ นิลวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง(ศอวล.) , นายประเสริฐ ทองหนูนุ้ย ผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง และ นายภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ ผู้ประสานงานมูลนิธิอันดามัน ประชุมร่วมกัน เพื่อวางแผนเร่งฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลในพื้นที่จังหวัดตรังโดยด่วน เพื่อดูแลพะยูนที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัวในพื้นที่ทะเลตรัง ให้มีอาหารสำหรับการดำรงชีวิตในภาวะวิกฤติที่หญ้าทะเลยังคงเสื่อมโทรมหนัก
ทั้งนี้สำหรับวิกฤตหญ้าทะเลที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาครบ 1 ปีแล้ว ทำให้พะยูนส่วนใหญ่อพยพย้ายถิ่น ส่วนที่เหลืออยู่ในทะเลตรังก็ขาดแคลนอาหารจนร่างกายอ่อนแอ และทยอยเกยตื้นตาย โดยนอกเหนือจากความพยายามในการทดลองทำแปลงผักเพื่อเป็นแหล่งอาหารให้พะยูนในบริเวณพื้นที่เกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของพะยูนฝูงใหญ่แล้ว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ยังได้อนุมัติงบประมาณอย่างเร่งด่วนในการแก้ปัญหา และฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลตลอดแนวชายฝั่งอันดามัน เพื่อช่วยเหลือชีวิตพะยูนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน(16พ.ย.67) เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พบซากพะยูน เพศเมีย ช่วงวัยรุ่น สภาพร่างกายสมบูรณ์ ความยาวประมาณ 1.8 เมตร เกยตื้นตายบริเวณหาดสบาย ทางทิศตะวันตกของเกาะมุกด์ ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง สภาพซากเริ่มเน่า ลักษณะภายนอกพบรอยพฤติกรรมฝูงบริเวณหลัง พบเพรียงเกาะทั่วลำตัว ไม่พบบาดแผลฉกรรจ์หรือบาดแผลจากเครื่องมือประมง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขนย้ายซากพะยูนกลับไปส่งที่สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย(มทร.) วิทยาเขตตรัง เพื่อเก็บรักษาสภาพซากเพื่อรอทีมสัตวแพทย์ทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไป โดยพะยูนตัวดังกล่าวถือเป็นตัวที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่เกยตื้นตายในทะเลตรัง และเป็นตัวที่ 4 ของทะเลอันดามัน ที่พบซากในเดือนพฤศจิกายน 2567
.
โดยซากแรกคือ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 67 เป็นซากพะยูน เพศผู้ เกยหาดเกาะสุกร จ.ตรัง ผลพิสูจน์ซาก พบป่วยเรื้อรังจากภาวะขาดอาหารเป็นเวลานาน , ซากที่ 2 พบเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 67 เป็นซากพะยูนเพศเมีย พบใกล้แหลมจมูกควาย ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ เขี้ยวทั้ง 2 ข้างถูกตัดออกหลังพะยูนตาย , ซากที่ 3 พบที่ป่าคลอก จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 67 เป็นพะยูนเพศผู้ หัวถูกตัด ครีบมีรอยรัด และตัวนี้ถือเป็นตัวที่ 4
.
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อดูสภาพพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ และดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาการตายของพะยูน และการเร่งฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรมในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ด้วย