นักวิเคราะห์ KVB เผยภาพรวมเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกปีนี้ได้ไปต่อ
GH News January 09, 2025 07:41 PM

KVB บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำระดับโลก ได้วิเคราะห์และคาดการณ์เศรษฐกิจสำหรับปี 2025 ที่ครอบคลุมเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญทั่วโลกรวมถึงคาดการณ์ผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจ และผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลง ผ่านมุมมองเชิงกลยุทธ์สำหรับนักลงทุนไว้ดังนี้

ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังเดินหน้าจากการฟื้นตัวหลังโรคระบาดครั้งใหญ่และภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลง การคาดการณ์สำหรับปี 2025 ได้มองเห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงผสานกับความเสี่ยงที่สำคัญในบางจุด องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดว่าอัตราการเติบโตของ GDP ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.2% ในปี 2024 เป็น 3.3% ในปี 2025 ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการคลัง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อุปสรรคจากการกีดกันทางการค้าที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ภายใต้การกลับมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก

การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกและปัจจัยขับเคลื่อนหลัก

สหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2025 โดยได้ประโยชน์จากนโยบายการคลังที่แข็งแกร่งและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะในบางภาคส่วนเช่นปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างไรก็ตาม การเรียกเก็บภาษีที่สูงอีกครั้งจากการนำเข้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา อาจทำให้สภาพคล่องของการค้าถูกขัดขวาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและการลงทุนระหว่างประเทศทั่วโลก คาดว่าการดำเนินนโยบายปกป้องทางการค้าดังกล่าวจะสร้างความผันผวนในตลาดโลก และนักลงทุนต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

คาดว่าเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลงหลังจากการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าอัตราการเติบโตจะลดลงจาก 4.9% ในปี 2024 มาอยู่ที่ 4.4% ภายในปี 2026 เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่ยังคงชะลอตัวและการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน คาดว่าทางยุโรปจะฟื้นตัวเล็กน้อย โดยมีการคาดการณ์การเติบโตในปี 2025 ที่เพิ่มขึ้นจาก 0.8% ในปี 2024 มาอยู่ที่ 1.5% ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่ตึงตัว

แนวโน้มการลงทุนและการเงิน

ในด้านการลงทุน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเป็นภาคส่วนที่มีการเติบโตอย่างเข้มแข็ง บริษัทเช่น Nvidia ก้าวขึ้นเป็นแนวหน้าของนวัตกรรมในการขับเคลื่อนการพัฒนาทางเทคโนโลยี ด้วยความต้องการแอปพลิเคชัน AI ที่พุ่งสูงขึ้น ในปี 2025 จะมีโอกาสในการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอีกหลายด้าน ตั้งแต่แพลตฟอร์มการเรียนรู้ไปจนถึงระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดย AI

อัตราดอกเบี้ยจะยังคงเป็นจุดสำคัญสำหรับตลาดการเงินในปี 2025 โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยลงสามครั้ง ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางจีนจะดำเนินนโยบายแบบผ่อนปรนโดยเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ลดลง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คาดว่าจะนำไปสู่ความผันผวนในตลาดการเงินโลก ซึ่งจะมีทั้งความเสี่ยงและโอกาสสำหรับนักเทรดและนักลงทุน

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐฯ และจีน การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในด้านพลังงานและโลหะอาจส่งผลกระทบอย่างต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นักลงทุนจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์

การคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2025

สำหรับประเทศไทย แม้การการคาดการณ์ยังคงเป็นบวกแต่ก็เป็นไปอย่างอย่างระมัดระวัง เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตระหว่าง 2.3% ถึง 3.3% ในปี 2025 โดยประมาณการอยู่ที่ราว 2.8% ตัวขับเคลื่อนการเติบโตรวมถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในด้านการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.0% โดยได้รับการสนับสนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและตลาดแรงงานที่ค่อนข้างคงที่

ภาคการส่งออกคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเมื่อความต้องการสินค้าของไทยยังคงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวก็ยังคงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้จะมีสัญญาณบวกเหล่านี้ แต่ประเทศไทยก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการกีดกันทางการค้าในระดับโลกได้ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ หากประธานาธิบดีทรัมป์กลับมามีอำนาจและมีการเรียกเก็บภาษีจากการนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ นั่นอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของการค้า นอกจากนี้ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกอาจส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตไทย โดยเฉพาะผู้ที่พึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ

ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ต่อประเทศไทย

ผู้ส่งออกไทยในบางภาคส่วนได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ในบางภาคส่วนก็เผชิญกับต้นทุนวัตถุดิบและส่วนประกอบที่เพิ่มขึ้นจากจีนซึ่งถูกเก็บภาษีจากสหรัฐฯ

ในบางกรณี ผู้ส่งออกไทยสามารถหาตลาดใหม่สำหรับสินค้าของตนโดยใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยได้เห็นการเติบโตในด้านการส่งออกของสินค้าบางประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ยาง และสินค้าการเกษตร โดยภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์มีทั้งโอกาสและความท้าทาย ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการที่บริษัทต่างๆ เลือกเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้นจากจีน อย่างไรก็ตาม บางชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงเนื่องจากผู้ผลิตพยายามหาทางเลือกที่ถูกกว่าจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผลกระทบต่อนักลงทุนในปี 2025

นักลงทุนทั้งในตลาดโลกและในประเทศไทยควรเตรียมพร้อมสำหรับปีแห่งความผันผวนและความไม่แน่นอน ความตึงเครียดทางการค้าโลก โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การกระจายพอร์ตการลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นๆ และภูมิภาคที่ต่างไปจากเดิมอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเช่น AI เทคโนโลยี และสินค้าโภคภัณฑ์ที่คาดว่ามีโอกาสเติบโต ในขณะที่ภาคการผลิตแบบดั้งเดิมอาจเผชิญกับความท้าทายจากนโยบายภาษี

สำหรับนักลงทุนไทย การมุ่งเน้นไปที่ภาคส่วนหลักๆ เช่น การท่องเที่ยว เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกอาจนำไปสู่โอกาสทำกำไร โดยเฉพาะหากประเทศไทยสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้แม้จะมีการหยุดชะงักจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ

โดยสรุป การคาดการณ์เศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2025 เป็นการเติบโตที่มั่นคงแต่ต้องระมัดระวัง ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในเรื่องนโยบายการค้าของสหรัฐฯ จะยังคงเป็นประเด็นสำคัญในการกำหนดทิศทางของการลงทุน สำหรับประเทศไทย สภาพเศรษฐกิจดูเหมือนจะเป็นบวก แต่ผู้ลงทุนต้องระมัดระวังปัจจัยภายนอกที่อาจกระทบภาคส่วนหลักในการเติบโตของประเทศ การกระจายการลงทุนและการติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเตรียมตัวและรับมือกับความซับซ้อนในปีที่จะมาถึง

KVB เป็นบริษัทแนวหน้าทางเทคโนโลยีที่มอบการเข้าถึงตลาดที่แท้จริงให้แก่ลูกค้าด้วยเงื่อนไขที่ดีที่สุด ด้วยประสบการณ์และความรู้ในอุตสาหกรรมมากกว่า 20 ปี KVB คือที่ๆ เทคโนโลยี ตลาดการเงิน และการวิเคราะห์มาบรรจบกัน เพื่อมอบประสบการณ์ด้านการลงทุนที่มีนวัตกรรมล้ำหน้าตลาด ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความรู้ในเชิงการศึกษา แต่ยังมีแอพพลิเคชั่นให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าใจง่าย ช่วยให้นักลงทุนสามารถควบคุมอนาคตทางการเงินของตนเองได้อย่างมั่นคง

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

KVB Website: www.kvbplus.com

Email: support@kvbplus.com

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image
© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.