ชายวัย 62 ถูกเมีย-ลูกเลี้ยง ไล่ออกจากบ้าน เดินตีนเปล่าน้ำตาตกกลับบ้านกว่า 500 กิโล พลเมืองดีผ่านมาเห็นให้ติดรถ ก่อนนำมาส่งโรงพยาบาล
9 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน จ.อุดรธานี รับแจ้งจากพยาบาล รพ.ไชยวาน ว่ามีคุณตาท่านหนึ่งทราบว่าเดินเท้าเปล่ามาจาก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพื่อจะกลับบ้านที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พยาบาลเห็นแล้วน่าสงสาร เพราะเดินเท้าเปล่ามาไกลจนขาบวม พยาบาลได้ให้ยาเพื่ออักเสบ
ต่อมาได้ประสานนักข่าวมาตรวจสอบ ทราบชื่อคือ นายพล อายุ 62 ปี โดยทาง พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน ได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น
นายพล เล่าว่า ไปอยู่กับภรรยาที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ อยู่ด้วยกันมานานกว่า 13 ปี แล้วแต่จู่ ๆ กลางเดือน ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ลูกชายภรรยาได้มาจากกรุงเทพฯแล้วมาอยู่ด้วย ก่อนถูกลูกชายภรรยาและภรรยาไล่ออกจากบ้าน ตนถามเมีย เมียบอกว่า ลูกว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น
ทำให้ตนน้อยใจ เดินออกจากบ้านภรรยาตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ไม่มีแม้กระเป๋าหรือเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว เดินมาเรื่อย ๆ เจอป้อมตำรวจก็ขอนอน กินข้าวก็ขอกินข้าววัด แต่ตนเดินได้ไม่สะดวก เพราะขาหักจากการถูกรถชนสมัยหนุ่ม ต่อมามีชาวบ้านขับรถอีแต๋นส่งอ้อยบอกว่าจะมาทาง อ.ไชยวาน จึงให้ติดขึ้นมาด้วยและมาส่งที่ รพ.ไชยวาน จนมีตำรวจพาตัวมาโรงพัก
นายพล กล่าวต่อทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่กับภรรยามีอาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นช่างเชื่อมได้เงินมาก็ใส่มือเมียหมด แต่พอลูกเขามาอยู่ด้วยตนไม่มีความหมาย เลยไล่ผมกลับบ้านเกิด 13 ปี ไม่มีความหมายอะไร รักพังทลาย ทะเลาะกันกลางคืนวันที่ 27 ธ.ค. ภรรยาก็เข้าข้างลูกชาย จึงตัดสินใจเดินกลับบ้านที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เสื้อผ้าก็ไม่เอา เงินก็ไม่มีติดตัว ถึงวันนี้ก็ 13 วันแล้ว เดินขากะเผลกมา เดินมาน้ำตาก็ตกมาตลอดทาง ตั้งใจจะไปอยู่บ้านเกิดที่ อ.โพนพิสัย ซึ่งเป็นของตนและมีหลานชายอยู่ แต่ตัดสินใจแล้ว เมื่อไปถึงบ้านแล้วจะไปบวชดีกว่า