"สะถิระ" แนะนำสายไฟฟ้าลงดินควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมจัดระเบียบเชื่อใช้งบไม่ถึง 100 ล้าน ต่อ 1 กิโลเมตร
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.เวลา 09.50 น.นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี เขต 10 พรรคกล้าธรรม กล่าวถึงโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินทั่วประเทศว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่หลักการใช้งบประมาณของรัฐ ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน เราจะใช้อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อประโยชน์ของประชาชนที่สุด อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนด้วย เพราะการนำสายไฟฟ้าลงดินนั้นต้องใช้งบประมาณถึง 100 - 300 ล้านบาทต่อ 1 กิโลเมตร ซึ่งประเทศไทยเคยมีโครงการ Eastern Seaboard (ESB) ในสมัยยุครัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ตั้งไว้ว่าในปี พ.ศ. 2547 -2557 ระยะเวลา 30 ปี จะนำเสาไฟฟ้าลงดินได้ประมาณ 88.3 กิโลเมตร แต่ในความจริงแล้วทำไปได้เพียง 35 กิโลเมตร คิดเป็น 30.3 % เท่านั้น จึงถือเป็นมหากาพย์เรื่องหนึ่ง
นายสะถิระ กล่าวต่อว่า เสาไฟฟ้ามีทั้งหมด 3 ขนาด 22 เมตร 12 เมตร 10 เมตร มีสายไฟฟ้าแรงสูง 64,000 โวลต์ 100,000 โวลต์ และสายไฟฟ้าแรงต่ำ ประมาณ 230- 400 โวลต์ ซึ่งใช้จ่ายไฟให้แก่พี่น้องประชาชน แต่ปัญหาสายที่ระโยงระยางกันอยู่คือ สายสื่อสาร สายอินเทอร์เน็ต สายกล้องวงจรปิด หรือแม้กระทั่งสายเคเบิลโทรทัศน์ ต้องพิจารณาให้รอบคอบว่า จะทำในพื้นที่ใดบ้าง ตนเห็นด้วย กับพื้นที่ท่องเที่ยว อย่างเช่นเป็นอำเภอของตน อ.บางเสร่ อ.แสมสาร พลูตาหลวง หาดจอมเทียน
“หากเรามีการนำสายไฟฟ้าลงดินในพื้นที่ท่องเที่ยว หรือพื้นที่ชุมชนแออัด ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจก่อสร้างรายได้ หรือการขายอาหาร เป็นซอฟพาวเวอร์ของเรา local food เราขายดีแน่นอน ถ้าเราพัฒนานำสายไฟฟ้าลงดิน แล้วเกิดประโยชน์ หรือสร้างรายได้กับพี่น้องประชาชน ในพื้นที่นั้น ๆ ผมว่าควรทำ แต่ถ้ามันทำไม่ได้ นอกจากสายไฟที่มีเสาไฟแรงสูง ชั้นบนสุด แล้วรองลงมาก็คือ สายไฟฟ้าแรงต่ำจ่ายไฟ และสายไฟฟ้าสื่อสารเหล่านี้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กสทช. หรือ ระบบประปา ผมคิดว่าการจัดระเบียบสายสัญญาณสื่อสารใช้งบประมาณไม่ถึง 100 ล้าน ต่อ 1 กิโลเมตร ทำไมเราถึงไม่มีการศึกษาเรื่องนี้ เพราะมันคือ แนวทางแก้ปัญหาระยะสั้น ซึ่งเราสามารถทำได้ “นายสะถิระ กล่าว
นายสะถิระ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ เราไม่มีการบังคับใช้กฎหมายกับบริษัทเอกชนที่ไม่จัดระเบียบสายสื่อสาร รวมถึงสายสัญญาณสื่อสารที่ไม่ได้ใช้แล้ว เราควรพิจารณาเรื่องนี้ เพราะไม่เช่นนั้น สายจะเป็นอย่างนี้ตลอด สร้างอันตรายให้กับพี่น้องประชาชนตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าจะสุดท้ายแล้วการพิจารณาเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แต่ขอให้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ
