อ.เบียร์ คนตื่นธรรม แจงปมดราม่า ยัน ไม่ได้ดูหมิ่นสถาบัน-พระชั้นผู้ใหญ่
ข่าวสด January 11, 2025 03:01 PM

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ตั้งโต๊ะแจงปมดราม่าคลิปไวรัล ยัน ไม่ได้ดูหมิ่นสถาบัน-พระชั้นผู้ใหญ่ ถามกลับคนตัดคลิป มีเจตนาอะไร ตอบชัดจะฟ้องกลับหรือไม่

จากกรณี นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมผู้เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายสัญชัย วันพิรัตน์ หรือ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม กรณีหมิ่นคณะสงฆ์ หมิ่นมหาเถรสมาคม ผ่านการไลฟ์เฟซบุ๊กช่วงเดือนก.ย.2567 ซึ่งมีบางช่วงบางตอนดูหมิ่นพระเกียรติคณะสงฆ์ระดับสูง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ม.ค.2568 อาคารหมอเส็ง สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ประธานกรรมการบริษัทหมอเส็ง (ไทยแลนด์) จำกัด พร้อมด้วย นายสัญชัย วันพิรัตน์ หรือ อ.เบียร์ คนตื่นธรรม

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ตั้งโต๊ะแจงปมดราม่าคลิปไวรัล ยัน ไม่ได้ดูหมิ่นสถาบัน-พระชั้นผู้ใหญ่ ถามกลับคนตัดคลิป มีเจตนาอะไร ตอบชัดจะฟ้องกลับหรือไม่

อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม ตั้งโต๊ะแจงปมดราม่าคลิปไวรัล ยัน ไม่ได้ดูหมิ่นสถาบัน-พระชั้นผู้ใหญ่ ถามกลับคนตัดคลิป มีเจตนาอะไร ตอบชัดจะฟ้องกลับหรือไม่

โดยมี นายสุทธิ กิตติศุภพร อดีตอธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ หม่อมหลวง สกุล มาลากุล อดีตสมาชิกวุฒิสภาและเป็นคณะกรรมการวิสามัญพิทักษ์และเทิดทูลสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้นัดสื่อมวลชนแถลงกรณีถูก นายอนันต์ชัย แจ้งความให้ดำเนินคดี โดยมีลูกศิษย์ Fc อ.เบียร์ คนตื่นธรรม เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก

นายวิวรรธน์ กล่าวว่า วันนี้ทาง อ.เบียร์ ได้มาชี้แจงแถลงข่าว เพราะคลิปข่าวของ อ.เบียร์ที่เป็นกระแสอยู่ในทุกวันนี้เกิดความแตกแยกในด้านข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ซึ่งทางเราอยากให้ทุกคนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันทั้งด้านข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง เข้าใจเหมือนกัน ดังนั้น เมื่อเรามีความเข้าใจตรงกันแล้วก็จะได้นำเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกัน

ซึ่ง อ.เบียร์ เป็นแค่เพียงฆารวาสคนสอนธรรมและถูกดำเนินคดีหลายข้อหาอยู่ เช่น 1.นำความเท็จเข้าสู่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หมิ่นประมาท ดูหมิ่นคณะสงฆ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้พวกท่านก็ยังไม่รู้หรอกว่า คดีพวกนี้คืออะไร เราก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อน

จึงจะเป็นประโยชน์ตามข้อเท็จจริง และจะได้ไม่เกิดความแตกแยก และจะได้ไม่คิดว่าการเข้าถึงศาสนาพุทธมันถอยหลัง ซึ่งเริ่มจากที่ อ.เบียร์ไปพูด 2 คลิปที่เกิดปัญหาขึ้นจนนำไปสู่การถูกดำเนินคดี

ด้าน อ.เบียร์ กล่าวว่า เนื่องจากกรณีที่มีคลิปวิดีโอที่แชร์กันอยู่ในโลกโซเซียล เกิดจากที่อาจารย์ไลฟ์เฟซบุ๊กสอนธรรมะอยู่ทุกวัน ซึ่งคลิปต้นเรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา แล้วเขาไปขุดขึ้นมาแชร์ย้อนหลังเพื่อให้เป็นประเด็นสังคมในปัจจุบัน

อย่างกรณีที่มีการไปพูดว่าตัวเองไปกล่าวอ้างพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ตนชี้แจงว่า ความเป็นจริงตัวเองไม่ได้พาดพิงถึงสถาบัน แต่เจตนาเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา ส่วนที่มีคลิปอาจารย์ไปพูดว่ามีแบล็คใหญ่นั้น แบล็คดี คำว่าแบล็คใหญ่นั้น ในช่วงต้นคลิปตัวเองก็พูดชัดเจนแล้วว่า แบล็คเราคือพระพุทธเจ้า

ซึ่งในคลิปก็จะมีคำว่า แบล็ค เราคือพระพุทธเจ้า ไม่มีใครใหญ่เกินพระพุทธเจ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นนายพล นายกรัฐมนตรี หรือว่าสถาบัน ซึ่งเป็นการพูดยกตัวอย่าง โดยในพระไตรปิฎกก็มีการพูดถึงบริบทนี้ว่า พระองค์ทรงอยู่เหนือ และพุทธบริษัทสี่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ดังนั้นพระพุทธเจ้าจะอยู่ในฐานะสูงสุดในโลกธาตุ

แต่ในบริบทที่อาจารย์เบียร์พูดถึงไม่ได้ไปพาดพิงถึงสถาบันหรือกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง แต่เราพูดถึงบริบทที่พระองค์ของการที่พระองค์ทรงบันลือสีหนาทไว้ว่า พระองค์ทรงอยู่เหนือโลก พระองค์ทรงสอนให้ทุกคนพ้นจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ยืนยันว่า สิ่งที่สอนในวันนั้นคือกำลังพูดถึงประเด็นนี้ ไม่ได้มีเจตนาพูดถึงสถาบันแต่อย่างใด

อาจารย์เบียร์ กล่าวว่า สำหรับคลิปวิดีโอที่มีการตัดคลิปออกไปนั้น มีเจตนาจาบจ้วงสถาบัน โดยการดึงสถาบันมาใส่ร้ายป้ายสีอาจารย์เองหรือไม่ เพราะมีการตัดเนื้อหาของพระพุทธเจ้าออกให้เหลือแค่เนื้อหาที่อาจารย์พูดว่ามี แบล็คใหญ่เหนือกว่าสถาบันทั้งหมด

จนทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดนำไปสู่การฟ้องร้องเอาผิดตัวเอง ม.112 ซึ่งเป็นเป็นการใส่ร้ายป้ายสีและดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง ขอยืนยันอีกครั้งว่า ตัวเองไม่มีเจตนาในการพาดพิงถึงสถาบัน แต่คนที่ตัดคลิปมีเจตนาอะไร มีเจตนาพาดพิงถึงสถาบันเองหรือไม่ ซึ่งคลิปนี้ตัวเองพยายามอธิบายอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีคนพยายามนำคลิปไปปั่นกระแส โดยไม่ได้ฟังคลิปเต็ม

ส่วนคลิปที่ 2 มีการพูดถึงมหาเถรสมาคม อาจารย์เบียร์ กล่าวว่า มีบริบทนั้นมันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมช่วงเวลานั้น ส่วนตัวพูดถึงพระอาจารย์รูปหนึ่ง ที่กำลังมีการตรวจสอบไต่สวนในเรื่องของการสอนธรรมมะที่ไม่ถูกต้อง ร้อยเปอร์เซ็นต์พูดไม่ตรงกับพระไตรปิฎก เชื่อถือไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีบางประเด็นที่ขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งมันก็เป็นหนึ่งในความเห็น

มหาเถรสมาคมจึงเรียกพระสงฆ์รูปดังกล่าวไปตรวจสอบ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากในสังคม ตัวเองในฐานะฆราวาสผู้สอนธรรมะตัวเอง จึงวิพากษ์วิจารณ์ว่าในกรณีนี้มหาเถรสมาคมบางส่วนมีการตัดสินใจตามธรรมตามวินัยก็ถูกต้องดีแล้ว ควรแก่การรักษาไว้

แต่สำหรับบุคคลที่ทำตามกฎหมายแล้วก็ไม่ควรจัดการ ตัวเองก็ตำหนิไปตามกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามสังคมทั่วไป ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาชี้โทษว่าใครถูกใครผิด รวมถึงไม่ได้มีการไปพูดถึงสมเด็จพระสังฆราชฯ ซึ่งมีการไปปั่นกระแสว่าตัวเองไปจาบจ้วงถึงสมเด็จพระสังฆราช

ซึ่งที่ผ่านมาตนได้มีการถวายเงินให้กับคณะสงฆ์ตามวัดที่ตนนับถือศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นวัดป่าวัดเขาต่าง ๆ โดยที่ผ่านมาได้มีการบริจาคเงินไปแล้วกว่า 20 ล้านบาท จะมาบอกว่าตนล่มจมต่อศาสนาได้อย่างไร รวมถึงปีใหม่ที่ผ่านมาตนได้มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี โดยมีประชาชนเข้าร่วม 4,000 กว่าคน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระสังฆราช

ซึ่งหลังจากนี้ตนพยายามที่จะเข้าไปกราบพระเถระด้วยตัวเอง แต่ที่ผ่านมาตนยังไม่มีโอกาส เมื่อเกิดกระแสสังคมเช่นนี้ ตนก็อยากจะเข้าไปก้มกราบเพื่อแสดงเจตจำนงความบริสุทธิ์ใจของตนเอง พร้อมบอกว่าที่ผ่านมาตนสามารถก้มกราบพระปีนเสาได้ ดังนั้นตนก็ไม่มีเจตจำนงที่จะกล้าไปดูหมิ่นพระเถระสมาคม

แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะนี้มีความพยายามที่จะปลุกปั่นยุยงให้สังคมแบ่งฝักแบ่งฝ่าย โดยใส่ข้อความว่า #saveพระสังฆราช ทำให้ตนเป็นคู่ขัดแย้งกับพระสังฆราช ซึ่งในความเป็นจริงแล้วตนมีความเคารพนอบน้อมต่อพระสังฆราชมาโดยตลอด รวมถึงสมเด็จพระมหาเถระ

ซึ่งถ้าท่านเปิดโอกาสก็อยากจะเข้าไปพบเพื่อรับโอวาท และกลับมาปฏิบัติตาม พร้อมบอกว่าที่ผ่านมาตนไม่สามารถที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่ตนกำลังจะสื่อสารได้ทุกคนมีหลักความเชื่อเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นเวลาที่ตนพูดหรือสอนธรรมะอะไรไปในสังคมก็อาจจะมีความคิดเห็นที่เห็นขัดแย้งกันได้เป็นเรื่องปกติ

แต่ขอร้องว่า อย่าเพิ่งรีบร้อนในการตัดสินใจ ให้หาข้อมูลหาข้อเท็จจริงก่อนที่จะมาด่ากันด้วยการรังเกียจเดียดฉันท์กัน และจากการเข้าใจผิดตนยังอยู่อีกนานยังไม่ตายวันนี้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะด่า เพราะเรื่องนี้มันเกิดจากคนที่รังเกียจเดียดฉันท์อาจารย์เบียร์ จึงเกิดกระแสดังกล่าวขึ้นมา

พร้อมบอกว่า ตั้งแต่เกิดกระแสดราม่ามา ตนก็ได้มีการไปออกมาหลายรายการ เพราะฉะนั้นตนก็พร้อมที่จะเคลียร์กับทางกองทัพธรรม ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านหลังบ้าน ตนก็พร้อมที่จะพูดคุย แต่ที่ผ่านมาแต่ละรายการที่จะติดต่อไปนั้น กองทัพทำเองก็ไม่ยอมรับสายโทรศัพท์และไม่ยอมออกรายการ

จึงทำให้ตนไม่สามารถที่จะชี้แจงเจตจำนงของตนได้ว่า เจตจำนงที่แท้จริงของตนนั้นคืออะไร ซึ่งถ้าอยากจะให้ศาสนาดีขึ้น เป็นคนพุทธและยึดมั่นในศาสนาก็ควรจะสมานฉันท์กัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้หากพิสูจน์แล้วว่า อาจารย์เบียร์เองไม่มีความผิดจะมีการฟ้องกลับกับคนที่แจ้งความหรือไม่ อาจารย์เบียร์ ระบุว่าในส่วนของตนไม่ได้คิดว่าจะต้องฟ้องกลับ แต่ในส่วนของคนอื่นหรือทีมงานที่เกี่ยวข้องก็แล้วแต่ดุลพินิจของเขา ให้เขาตัดสินใจกันเอง

ด้าน นายวิวรรธน์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นข้อกฎหมายจะมีการรวบรวมคลิปส่งให้กับเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ให้ตรวจสอบดูว่ามีเจตนาตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ และหากตรวจสอบว่าคลิปดังกล่าว เป็นคลิปปลอมหรือถูกตัดต่อ คนที่เข้าไปแจ้งความก็จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ

แต่หากเจ้าหน้าที่มีข้อสงสัยในส่วนของการกระทำของอาจารย์เบียร์ ทางอาจารย์เบียร์ และคณะก็พร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นนี้

ถามต่อว่า การที่พูดในลักษณะทำนองนี้เป็นเหมือนการข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องหรือไม่ นายวิวรรธน์ กล่าวยืนยันว่า เรื่องการฟ้องร้องไม่ใช่การข่มขู่ ส่วนรายละเอียดในการฟ้องร้องจะเป็นอย่างไรนั้นจะมีการแถลงข่าวภายหลัง ซึ่งตอนนี้ได้มีการรวบรวมข้อมูลและหลักฐาน รวมถึงรายชื่อคนที่จะถูกดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่า จะมีความชัดเจนในอาทิตย์หน้า

นายสุทธิ กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ตนเป็นอัยการมาเป็น 46 ปี มองว่า เรื่องดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ให้ดูที่เจตนา ในการที่ไปกล่าวอ้างความผิดในมาตรา 112 นั้นเป็นข้อหาที่ ยิ่งใหญ่มาก ดังนั้นต้องดูการกระทำว่ามีเจตนามุ่งหมายอะไร และต้องดูให้ครบถ้วนทั้งหมด ไม่ใช่การตัดตอนหรือหยิบบางข้อความมาเท่านั้น

ซึ่งตนไม่ได้ดูข้อเท็จจริงทั้งหมดจึงไม่สามารถที่จะวินิจฉัยชี้ขาดได้ แต่เบื้องต้นในมุมมองของนักกฎหมาย ข้อเท็จจริงนั้นยังไม่จบสิ้น แต่ส่วนตัวยังมองว่าขาดเจตนา

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.