ทีมประกันสังคมก้าวหน้า เปิด 5 นโยบายผลักดันต่อปี 68 เพิ่มค่าคลอดบุตรเป็น 2 หมื่น – เพิ่มเงินดูแลเด็ก 7-12 ปี เป็น 800 บาทต่อเดือน หลังปี 67 ดันเพิ่มค่าสงเคราะห์เด็ก 0-6 ปี อีก 200

นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน คณะกรรมการประกันสังคม เปิดเผยถึงนโยบายที่ทีมประกันสังคมก้าวหน้าได้ผลักดันเพื่อสวัสดิการของเด็ก ว่า ในปี 2567 หนึ่งในความสำเร็จคือการผลักดันให้มีการเพิ่มค่าสงเคราะห์เด็ก 0-6 ปี จาก 800 เป็น 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งบอร์ดประกันสังคมมีมติเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ประกาศใช้แล้วเมื่อ 1 มกราคม 2568 มีเด็กได้รับสิทธิประโยชน์กว่า 1.2 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 3 พันล้านบาทต่อปี

ส่วนนโยบายสวัสดิการเด็ก ที่ทีมประกันสังคมก้าวหน้าจะผลักดันต่อในปี 2568 มี 5 เรื่องสำคัญ (1) เพิ่มค่าคลอดบุตรเป็น 20,000 บาท โดยผลักดันผ่านบอร์ดประกันสังคมแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการแพทย์

(2) เพิ่มเงินดูแลเด็ก 7-12 ปี เป็น 800 บาทต่อเดือน หากผลักดันผ่านบอร์ดประกันสังคมแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับขึ้นรายปีตามสถานะกองทุนประกันสังคม

(3) เงินอุดหนุนส่งเสริมการเรียนรู้ (SSO Kids Creative) อุดหนุนค่าเล่าเรียนสำหรับเด็กอายุ 7-12 ปี ปีละ 2,000 บาท สำหรับการเล่าเรียนทักษะด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ สังคม และอื่นๆ

(4) SSO Baby Box กล่องอุปกรณ์สำหรับเด็กแรกเกิด ประกอบด้วย ของใช้อเนกประสงค์ เช่น ผ้าอ้อม โลชั่นทาผิว ปรอทวัดไข้ สบู่เด็ก, อุปกรณ์สุขอนามัย เช่น ชุดสำลีทำความสะอาด น้ำยาซักผ้า, คู่มือดูแลทารก, ของเล่นเสริมพัฒนาการ เช่น หนังสือเด็ก ของเล่นเขย่าได้

และ (5) ศูนย์เด็กเล็กคนทำงาน เป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็กชั่วคราวในช่วงเวลาทำงานของผู้ปกครอง เปิดทั้งกลางวันและกลางคืน มีอาหาร บุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็ก อุปกรณ์ต่างๆ ตามมาตรฐานสากล เช่น นิทาน ของเล่น โดยครอบคลุมทุกพื้นที่ของคนทำงานง

นายษัษฐรัมย์ กล่าวด้วยว่า ทุกนโยบายที่ทีมประกันสังคมก้าวหน้านำเสนอ สามารถเป็นจริงได้ในเวลาอันรวดเร็วหากฝ่ายการเมืองอย่างรัฐบาลมีนโยบายตรงกันและร่วมสนับสนุน อย่างไรก็ตาม มี 2 เรื่องที่ขอเชิญชวนให้ผู้ประกันตนติดตามตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการประกันสังคม ว่ามีเรื่องใดที่ไม่ตอบโจทย์ผลประโยชน์ของผู้ประกันตนหรือไม่

(1) งบประมาณบริหารสำนักงานประกันสังคม 5,800 ล้านบาทต่อปี พบว่าเป็นงบด้านไอทีถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งน่าแปลกใจเพราะผู้ประกันตนไม่ได้รู้สึกว่ามีการใช้งบอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะประเมินจากคุณภาพของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของสำนักงานประกันสังคม อีกทั้งเป็นเงินนอกงบประมาณ ตรวจสอบยาก ผู้ประกันตนเข้าไม่ถึงข้อมูล

(2) การปรับแผนการลงทุนของกองทุนประกันสังคม ขยายการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด เป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ที่มีผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นต้องมีการวางมาตรการอย่างรัดกุมเพื่อลดการแสวงหาประโยชน์