บุกบ้านกลางเมืองนครปฐม จับ 2 ผู้ต้องหา ยึดไอซ์ หนักกว่า 70 กก. ซุกห้องลับใต้บันได เผย เอายามาจากไหน เตรียมส่งให้ลูกค้า อีกรายบอกไม่รู้เรื่อง ปฏิเสธทุกข้อหา
วันที่ 13 ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม, พ.ต.ท.โอภาส วงษ์หงษ์ ผอ.บก.ปปส.ภ.7, น.ส.อโรชา นันทมนตรี ผวจ.นครปฐม และ ดร.อภิชา ไชยพรชลิดา นายอำเภอเมืองนครปฐม
ร่วมกันตรวจค้นยาเสพติด ยาไอซ์ น้ำหนัก 78.92 กิโลกรัม ภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 รายคือ นายชัยวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และ นายสิทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
บุกบ้านกลางเมืองนครปฐม จับ 2 ผู้ต้องหา ยึดไอซ์ หนักกว่า 70 กก. ซุกห้องลับใต้บันได เผย เอายามาจากไหน เตรียมส่งให้ลูกค้า อีกรายบอกไม่รู้เรื่อง ปฏิเสธทุกข้อหา
จากการตรวจค้นภายในห้องเก็บของใต้บันได พบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ภายในถุงห่อชาเขียว แล้วบรรจุในถุงดำใส่กระเป่าเดินทาง 11 ห่อ น้ำหนักรวม 11.6 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 10 ห่อ บรรจุในถุงดำน้ำหนักรวม 10.19 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 16 ห่อ บรรจุในกระสอบปุ๋ยสีขาว น้ำหนักรวม 17.03 กิโลกรัม, ยาไอซ์ 38 ห่อ บรรจุอยู่ภายในลังพลาสติกสีเทา 40.04 กิโลกรัม
รวมทั้งสิ้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมยาไอซ์น้ำหนักจำนวน 78.98 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง อาวุธปืนพกสั้น รีวอลเวอร์ ขนาด .32 และเครื่องกระสุนปืนขนาด 32 จำนวน 6 นัดบรรจุในรังเพลิง
สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายชัยวัฒน์ได้ลำเลียงยาเสพติดจากเครือข่ายยาเสพติดทางภาคเหนือของไทย จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ที่บ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 16.40 น. พบนายชัยวัฒน์ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้เข้าไปแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และได้สอบถามนายชัยวัฒน์ถึงเรื่องยาเสพติด โดยนายชัยวัฒน์ให้การรับสารภาพว่าตนลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากทางภาคเหนือมาเก็บรักษาไว้ เพื่อรอคำสั่งจากเจ้าของยาให้ไปส่งให้กับลูกค้า ส่วนยาเสพติดทั้งหมดนำไปซุกซ่อนอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม
จากนั้นจึงประสานชุดจับกุมร่วมกันตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว โดยนายชัยวัฒน์ได้สมัครใจนำชุดจับกลุ่มเข้าตรวจสอบ แต่เมื่อไปถึงพบนายสิทธิชัยขับรถจักรยานยนต์เข้ามาพอดี โดยได้แสดงตนเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงบัตรปปส.ให้กับนายสิทธิชัยดู จากการตรวจค้นในบ้านปรากฏว่าพบยาไอซ์ทั้งหมดรวม 78.98 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องเก็บของใต้บันได ของบ้านหลังดังกล่าว และทำการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ รวมถึงอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนของนายชัยวัฒน์ด้วย
นายชัยวัฒน์ ให้การว่า ยาไอซ์อยู่ในความดูแลของตน และอาวุธปืนดังกล่าวก็เป็นของตนเองจริง สำหรับยาไอซ์จำนวนกว่า 78.98 กิโลกรัมนั้น ได้รับการติดต่อมาจาก นายกอล์ฟ (นามสมมติ) ซึ่งติดต่อผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก เป็นเพื่อนวัยเรียนให้เข้าไปรับยาไอซ์ครั้งแรก 30 กิโลกรัม ที่ถนนเส้นพระราม 2 เมื่อประมาณเดือนก.ค.2567
นายชัยวัฒน์นั้นนำยามาเก็บไว้ที่บ้านใน อ.เมืองนครปฐม จากนั้นนายชัยวัฒน์ได้นำยาไอซ์ไปส่งตามคำสั่งของนายกอล์ฟ โดยจะได้รับเงินค่าจ้าง 40,000 บาท แต่เมื่อส่งยาสำเร็จปรากฏว่านายกอล์ฟโอนเงินมาให้เพียง 5,000 บาท เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2567 โดยตนนำยาไปไว้ที่เส้นทาง ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และทิ้งไว้ข้างทาง
ส่วนครั้งที่ 2 นายชัยวัฒน์ได้ไปรับยาไอซ์ ตามคำสั่งของนายกอล์ฟเช่นเดิม ที่เส้นทางกำแพงแสน-พนมทวน จ.กาญจนบุรี 100 กิโลกรัม เมื่อเดือนก.ค.2567 ต่อมาได้นำยาไอซ์ไปส่งให้กับลูกค้าของนายกอล์ฟอีก 20 กิโลกรัม ที่เส้นทางกำแพงแสน-พนมทวน
ส่วนยาไอซ์ที่เหลือนายชัยวัฒน์ได้นำไปให้กับนายตั้มซึ่งเพื่อนของนายตั้มได้แนะนำว่าให้ไปเช่าบ้านในต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม เก็บไว้ จนกระทั่งถูกตามจับกุม
ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ให้การรับสารภาพ ส่วนนายสิทธิชัย ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากอ้างว่าเพิ่งมาเช่าบ้านอยู่เพียง 2 เดือนตั้งแต่พ.ย.2567 โดยทราบว่านายชัยวัฒน์ได้นำสิ่งของมาเก็บไว้ที่ใต้บันได ไม่ทราบว่าเป็นสิ่งของใด
หลังการจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาที่ กก.สส.ภ.จว. เพื่อตรวจสารเสพติดในปัสสาวะแต่ไม่พบ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหานายชัยวัฒน์ ร่วมกันมียาไอซ์ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ด้วยความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนนายสิทธิชัย เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาร่วมกันมียาไอซ์ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลยาเสพติดเพื่อโยงไปสู่การจับกุมของผู้ค้ารายใหญ่ต่อไป
