"สัมพันธ์"วอนนายกฯเร่งพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนใต้  ชี้นโยบายกล้าธรรม 3D ช่วย ปชช.ลืมตาอ้าปากได้เร็ว 

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.68 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 3 พรรคกล้าธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 16 ม.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี เพื่อตรวจและติดตามการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนรู้สึกดีใจและขอบคุณแทนประชาชนในพื้นที่ เพราะทุกคนรอคอยการมาปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอด แต่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีภารกิจจำนวนมากในพื้นที่ภูมิภาคอื่น ๆ หลายเรื่อง อีกทั้งปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีหลายเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และต้องใช้เวลาการศึกษา ซึ่งเข้าใจว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีน่าจะตกผลึกกับการแก้ไขปัญหา และพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้พอสมควรแล้ว จึงลงมาในพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูล

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ตนได้เฝ้าติดตามการแก้ไขปัญหาของหลายรัฐบาล โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับประชาชน เนื่องจากตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาฯ พบข้อมูลสำคัญว่า ประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีฐานะความเป็นอยู่ในอยู่ในระดับยากจนติดลำดับต้น ๆ ของประเทศที่จำเป็นต้องเร่งสั่งการแก้ไขและพัฒนาให้ประชาชนมีงานทำและมีรายได้จุนเจือตนเองและครอบครัวโดยเร็วที่สุด และจะต้องหลุดพ้น 10 อันดับแรกให้ได้ภายในปี 2570  ประเด็นการช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft Loan) ถือเป็นนโยบายที่ดี ที่รัฐได้ดำเนินการมาหลายสิบปี โดยรัฐบาลได้ทุ่มเทงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก ปีละหลายร้อยล้านบาทเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ให้สามารถหล่อเลี้ยงธุรกิจ และสร้างการเจริญเติบโตต่อไปได้ จากข้อมูลพบว่า มีลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ Soft Loan จำนวนรวมสูงถึง 3,829 ราย จำนวนนี้เป็นลูกค้าเก่าถึง 3,513 ราย และเป็นลูกค้าใหม่ 316 รายเท่านั้น โดยใช้เงินงบประมาณจากโครงการไปเกือบครึ่งหนึ่งของวงเงินสินเชื่อ และยังมีวงเงินคงเหลืออีก 13,095.89 ล้านบาท

"ประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้ยังยากจนจำนวนมาก ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ได้เติบโตเท่าที่ควร ดังนั้น อาจจะต้องปรับแต่งมาตรการของโครงการ เช่น ให้ผู้ประกอบการรายเก่าที่กู้ยืมเงินไปหลายสิบปี ได้ผ่อนชำระคืนเงินต้นโดยเร็ว อาจต้องมีการทำแผนการผ่อนชำระที่ดี และมีแผนการเร่งรัดติดตามการจ่ายเงินกู้ตามเวลาที่เหมาะสม กำหนดระยะเวลาการคืนเงินที่ชัดเจน โดยต้องตรวจสองการกู้เงินจากโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ เพราะทราบว่ามีการนำเงินส่วนนี้ไปใช้ในธุรกิจนอกพื้นที่ชายแดนใต้ และผู้ประกอบการบางรายกู้ยืมเงินและนำไปปล่อยกู้ต่อ เพราะส่วนต่างดอกเบี้ยที่ถูกกว่า" นายสัมพันธ์ กล่าว

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ในขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ เข้าถึงเงินกู้ยากมาก มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่สร้างภาระให้กับผู้ประกอบการ สถาบันการเงินมักให้ใช้เงินกู้หลายโครงการพร้อม Soft Loan เพราะต้องการดอกเบี้ยที่มากกว่า และยังมีอีกหลายปัญหามากที่ต้องเร่งสะสางและเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป เพราะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อพี่น้องประชาชน รวมทั้ง อาจพิจารณาเพิ่มมาตรการ เช่น โครงการที่เสนอขอรับเงินกู้ จะต้องเชื่อมโยงไปยังการแก้ไขปัญหาคนว่างงานด้วยการจ้างแรงงานคนท้องถิ่น และหรือต้องใช้วัตถุดิบจำพวกพืชผลทางการเกษตรและอื่น ๆ จากพื้นที่เป็นหลักด้วย รวมทั้ง บูรณาการสถาบันการเงินต่างๆ เข้ามาสนับสนุนตามความจำเป็นและปัญหาของพื้นที่ด้วย ทั้งนี้ พรรคกล้าธรรม ซึ่งบริหารราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์  รมว.เกษตรฯ  กำลังพิจารณานโยบาย 3D เดินหน้าพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ ด้วยการทำดินให้ดี ทำน้ำให้พร้อมใช้ประโยชน์ และใช้ในการเกษตร จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ให้หลุดพ้นความยากจนตามนโยบายรัฐบาลอย่างยั่งยืน ซึ่ง หลัก ๆ ของนโยบายก็คือ D1 ดินดี D2 น้ำดี และ D3 เกษตรดี

“ผมหวังว่า นโยบายดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้เป็นอย่างดี และจะช่วยสร้างความมั่นใจในการพัฒนาภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลแพทองธาร เพราะเกษตรเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจ และเป็นวิถีชีวิตของประชาชนในจังหวัดชายแดนใตั เมื่อเกษตรกรรมดีแล้ว แน่นอนว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนก็ต้องดีตามไปด้วยอย่างแน่นอน”นายสัมพันธ์ กล่าว