ทักษิณ ชี้ปัญหาตลาดหุ้นไทย 5 ด้าน เร่งแก้ไข แนะ กลต.-ตลท. เพิ่มสปีดเดินหน้าคุมเข้ม บริษัทจดทะเบียน ลดความได้เปรียบเสียเปรียบ

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาถกฐาพิเศษในหัวข้อ Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital ว่า ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันมีอยู่ 3 คำ คือ trust ความเชื่อถือ, confidence ความเชื่อมั่น และ sentiment ทั้ง 3 ด้านในวันนี้ยังไม่ค่อยดีนักต้องนำกลับคืนมาให้ได้ ทั้ง trust และconfidence ส่วน sentiment เป็นเรื่องทั่วไปทั้งเรื่องของสถานการณ์โลก อย่างการเปลี่ยนแปลงการเมืองของสหรัฐ ซึ่งในวันที่ 20 ม.ค.นี้ คงจะเห็นความชัดเจน หากโดนัล ทรัมป์ ได้ประกาศนโยบายตามที่หาเสียงจะมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากมายมีทั้งปัจจัยลบและบวกต่อประเทศไทย

ขณะที่ปัญหาที่ได้รับฟังจากทั้งในฝั่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ซึ่งต้องมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาการปรับตัวทั้ง ตลท. และ กลต.ค่อนข้างช้า จึงมองว่าหลังจากนี้ต้องรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งบางสิ่งต้องออกเป็น พรก. ก็ต้องออก ซึ่งฝั่งรัฐมนตรีคลังได้เตรียมไว้หลายเรื่องที่ต้องปรับปรุง ได้แก่

1. เรื่องธรรมาภิบาล (Corporate Governance) เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ที่เป็นความโปร่งใสในบริษัทตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีเหตุเกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่มีการแก้ปัญหาที่ช้า และอธิบายได้ช้า โดยบริษัทที่เข้าตลาดหุ้นแล้วต้องมีการมอนิเตอร์กันอย่างต่อเนื่อง จึงฝากตลาดหลักทรัพย์ติดตามพฤติกรรมของฝ่ายบริหารของทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ใช้เงินผิดประเภท ทำบัญชีมีระบบตรวจสอบที่ถูกต้อง และมั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นไม่เกิดปัญหาและกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์

2. High Frequency Trading (HFT) การที่ปล่อยให้โรบอร์ดเทรดเข้ามาซื้อขายในตลาด เรื่องนี้ไม่มีใครได้ประโยชน์และยังเกิดความได้เปรียบและเสียเปรียบระหว่างกันซึ่งตลาดหลักทรัพย์ในฐานะผู้ดูแลควรจะต้องชั่งน้ำหนักในเรื่องนี้เนื่องจากความได้เปรียบเสียเปรียบถือเป็นประเด็นสำคัญในตลาดหลักทรัพย์เพราะจะต้องทำให้มีความเท่าเทียมกันเกิดขึ้น

3. หน่วยงานกำกับแก้ปัญหาล่าช้า เมื่อมีการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย ดังนั้นกระทรวงการกำลังเตรียมพร้อมเพิ่มอำนาจ กลต. ให้เหมือนตลาดสากล สามารถจัดการได้ทันทีไม่ต้องรอหน่วยงาน อัยการ DSI โดยรัฐบาลตระหนักและกำลังดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

4. บริษัทหรือธุรกิจในตลาดหุ้น เป็นธุรกิจเก่าๆ ดังนั้นรัฐบาลได้ชวน BOI ให้ชวนบริษัทต่างชาติลงทุนในประเทศไทยเข้ามาในตลาดทุนมากขึ้น โดยบริษัทที่ลงทุนในประเทศไทยจะพยายามจูงใจให้เข้าตลาดทุนเช่น เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับหลักการและนำกฏหมายเข้าสภาฯ ซึ่งมีการลงทุนกว่า 5 แสนล้านบาท จะเพิ่มการลงทุนในตลาดทุนมากขึ้นด้วย

5. หุ้นจำนวนมากราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value) และ PE ต่ำ จึงอยากให้ตลาดใช้ระบบแบบญี่ปุ่น ศึกษาที่จะทำให้ราคาหุ้นกับ (Book Value ใกล้เคียงกัน)