เมื่อวันที่ 13 มกราคม นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในงาน “Dinner Talk Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market” ว่า วันนี้เศร้าใจมาก เพราะเราเห็นมาเลเซีย จีดีพีโต 5.6% แต่ประเทศไทยโต 3% และมีคนบอกว่าคงได้เพียง 2% กว่าเท่านั้น โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะโตได้ 3% ซึ่งปีนี้ 2568 นี้เราต้องทำให้ได้ 4% ส่วนปี 2569 ต้องทำให้ได้ 5% ไม่ว่าจะวิธีไหนแต่เราต้องทำให้ได้
ตอนสมัยตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศว่าจะทำนโยบายแบบสมดุลก็ทำได้จริงๆ ไม่มีอะไรเกินความพยายามของเรา แต่ปัญหาคือความร่วมมือที่สำคัญ โดยวันนี้เราเป็นรัฐบาลมีหน้าที่ทำงานให้ประชาชน มีหน้าที่ทำงานให้ประเทศ ถ้าคุณไม่ใช้รัฐบาล คุณจะใช้ใคร มานั่งด่ารัฐบาลแล้วใครทำงาน ความจริงแล้วเราต้องช่วยกันทำ ช่วยกันสนับสนุนให้รัฐบาลทำงานให้ประเทศ โดยตอนนี้เชื่อว่าเราได้รับความร่วมมือโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี จนสามารถผ่านหลักการสำคัญในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และการนำพนันออนไลน์ขึ้นมาไว้บนดิน
”พนันออนไลน์ในอดีตที่เล่นกัน 2.5 ล้านคน ถึง 4 ล้านคนในประเทศ มีการเงินฝาก 3 ล้านล้านบาทต่อปี เล่นกันได้เสียปีนึง 5 แสนล้านบาท หากเก็บภาษี 20% ในส่วนนี้จะได้ 1 แสนล้านบาท หากเก็บ 1% ของเงินฝากก็จะอีก 3 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญมากกว่านั้นคือเราสามารถควบคุมไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 เล่นได้ด้วยระบบยืนยันตัวตน รวมถึงรู้ว่าใครติดเล่นแบบงอมแงม ก็สามารถส่งให้จิตแพทย์นำไปบำบัดได้ เรามีแดชบอร์ดที่สามารถควบคุมเหล่านี้ หากปล่อยไว้แบบเดิมเราไม่สามารถควบคุมได้นอกจากจ่ายเจ้าหน้าที่อย่างเดียว” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวว่า ปัญหาที่ได้ยินเสียงบ่นอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลต้องแก้ไขไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่น คือ พีเอ็ม 2.5 วันนี้ต้องมีมาตรการเด็ดขาดที่จะจัดการเกษตรกรที่เผาพืชเกษตร ซึ่งเป็นต้นเหตุของพีเอ็ม 2.5 อาทิ ที่สิงคโปร์มีการออกหมายจับผู้ที่เผาพืชเกษตร แม้เป็นชาติอื่นอย่างอินโดนีเซีย แต่เมื่อเดินทางผ่านสนามบินสิงคโปร์ก็ทำการจับกุมทันที วันนี้จึงถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องเอาจริงเอาจัง อะไรที่ควรมีกฎหมายก็มี หากยังไม่มีก็ต้องใช้มาตรการ อาทิ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท หากตรวจพบว่ามีการเผาพืชเกษตรก็ไม่ให้การช่วยเหลือนี้
นายทักษิณ กล่าวว่า รวมถึงปัญหาคอลเซ็นเตอร์ เรื่องนี้เคยมีมติครม. ว่าให้การไฟฟ้าภูมิภาคกับบริษัทโทรคมนาคมทั้งหลายห้ามให้ความร่วมมือ ให้ตัดสายบริการไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีการกระทำที่เป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือผลิตยาเสพติด เพราะเรากำลังเอาไฟไปให้เขา ลากสายโทรศัพท์ไปด้วย สุดท้ายมาหลอกเงินคนไทย ยาเสพติดก็เหมือนกัน ตอนนี้เปรียบเสมือนเราให้ทุนสู้รบในพม่าโดยไม่รู้ตัว เพราะคนเหล่านั้นมาหลอกเงินคนไทยด้วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แถมเอายาเสพติดมาขายลูกหลานเราอีก ไทยจึงต้องเด็ดขาด
นายทักษิณ กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้มีความกลุ้มใจคือ ที่ชนบทไม่มีเงินใช้เลย เพราะเงินที่มีอยู่นำไปซื้อเสื้อผ้าหรือของกิน ซึ่งเป็นร้านสาขามาจากกรุงเทพฯ พอนำเงินไปใช้แล้วเงินก็ถูกส่งกลับมากรุงเทพฯ ทำให้เม็ดเงินเศรษฐกิจในต่างจังหวัดเป็นเรื่องที่น่ากลุ้มใจมาก ไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร ซึ่งมองง่ายๆ อยู่ 2-3 เรื่อง คือ 1.เราจะจูงใจให้บริษัทในกรุงเทพไปตั้งเฮดควอเตอร์ในต่างจังหวัดบ้างดีหรือไม่ จังหวัดเกรดหนึ่งลดภาษีระดับนี้ จังหวัดเกรดสองลดภาษีระดับนี้
2.ได้หารือกับผู้บริหารสนามบินเอโอที ว่าเป็นไปได้หรือไม่สนามบินในต่างจังหวัดหลายสนามบินมีที่จอดเยอะแยะ ทำไมต้องจอดอยู่เพียงดอนเมืองและสุวรรณภูมิเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลว์คอส หากสามารถทำเป็นฮับสายการบินในต่างจังหวัดได้ อาทิ พิษณุโลกเป็นฮับของไลอ้อนแอร์ ก็จะทำให้เครื่องบินไปจอดในต่างจังหวัด ค่าใช้จ่ายก็ถูกด้วย ที่อยู่ของกัปตันหรือลูกเรือก็จะไปอยู่ในต่างจังหวัด เป็นการเพิ่มเศรษฐกิจในจังหวัดนั้นนั้นมากขึ้น และ 3.ดิจิทัลวอลเล็ต นอกเหนือจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราใช้หลังบ้านเป็นบล็อกเชน ซึ่งมีสมาร์ทคอนแทคในการคุมเม็ดเงินว่าจะจะใช้ตรงไหนอย่างไรได้บ้าง อาจเป็นสิ่งที่เราใช้ประโยชน์ในการรักษาเงินที่จะอยู่ในต่างจังหวัดมากขึ้น
นายทักษิณ กล่าวว่า ในอดีต 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยไม่ดี แต่แบงก์ชาติต้องพิมพ์แบงก์เพิ่มตลอดเวลา แล้วเม็ดเงินหายไปไหนสะท้อนว่าลงไปไปใต้ดินเยอะ ซึ่งเงินจะไม่ค่อยทำงาน แล้วทำยังไงถึงจะให้เงินทำงานหลายประเทศมีวิธีที่แตกต่างกัน อาทิ
อินเดีย ครั้งที่แล้วสั่งพิมพ์แบงก์ใหม่ยกเลิกแบงก์เก่า ซึ่งแบบนี้รัฐบาลเสียงบประมาณ เงินที่จะขึ้นมาจากใต้ดินก็อาจขึ้นมาไม่หมด บางประเทศก็ทำคือให้นำเงินเข้าแบงก์แบบไม่ต้องยืนยันตัวตน แต่รัฐบาลเก็บภาษี ต้องทำภายในกี่เดือนก็ว่ากันไป เป็นการแก้ปัญหาการฟอกเงิน แต่หากพิสูจน์ภายหลังแล้วพบว่าเป็นเงินจากการค้ายาเสพติดก็จะถูกดำเนินคดีอีกครั้ง เมื่อเงินเหล่านี้เข้ามาสู่ในระบบก็จะหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ บางคนที่เมื่อเงินเข้ามาอยู่ในบัญชีก็จะทำมาหากินที่สะอาดเลิกทำธุรกิจสกปรก เกิดเศรษฐกิจใหม่ๆ ขึ้นได้
”วันนี้อยากเห็นความสามัคคีในประเทศไทยเกิดขึ้นจริงๆ เพราะเราไม่มีความสามัคคีกันมานานมากแล้ว เราเป็นประเทศที่น่าอยู่แต่เรากำลังทำลายกันเองโดยไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา จึงอยากให้เรามีความสามัคคีกัน โดยเฉพาะสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็น 3 เสาหลักของเศรษฐกิจ ได้มานั่งคุยกันบ้าง จึงอยากให้เศรษฐกิจมีการพูดคุยกันและผลักดันให้เติบโตไปด้วยกัน เพราะหากเศรษฐกิจโตมากขึ้น แน่ใจว่าตลาดหลักทรัพย์ก็จะปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน“ นายทักษิณ กล่าว