‘วิโรจน์’ ไม่ติดใจมือขู่ยิงเอาชีวิต ชี้ควรสู้กันด้วยนโยบายตรงไปตรงมา พร้อมไม่ใช้ความรุนแรง เชื่อชาวจันทบุรีตัดสินใจเองได้ 1 ก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 14 มกราคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกคนข่มขู่หมายเอาชีวิตในพื้นที่หาเสียง อบจ.จันทบุรี ว่าคิดว่าในยุคสมัยใหม่ ชาวจันทบุรีก็ไม่ได้คาดหวังที่จะเห็นการเมืองที่ใช้ความรุนแรงอีกแล้ว เชื่อว่าประชาชนอยากเห็นการเมืองที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายที่อยู่ในเนื้องานอย่างไปตรงมา และนำเสนอนโยบายที่แตกต่างกันเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจ
นายวิโรจน์กล่าวว่า ถ้าอีกฝั่งที่เป็นผู้แข่งขันเห็นว่านโยบายของเรายังไม่ตอบโจทย์ตรงไหน หรือมีช่องว่างช่องโหว่ตรงไหน จะวิพากษ์วิจารณ์กลับมา หรือเสนอนโยบายที่ดีกว่า เราก็น้อมรับ เพราะประชาชนได้ประโยชน์ แต่เราและชาวจันทบุรีก็ไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายไม่มีนโยบายนำเสนอ หรือวิพากษ์วิจารณ์นโยบายได้ ก็ใช้ความรุนแรง หรือใช้การข่มขู่แบบนี้ เชื่อว่าชาวจันทบุรีและจังหวัดอื่นๆ จะตัดสินใจได้ว่าควรจะเลือกใครที่พวกเขาสามารถฝากความหวังในการขับเคลื่อนนโยบายได้
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับคู่กรณีแล้วใช่หรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนก็พูดคุย โดยให้พนักงานสอบสวนเป็นพยานด้วย เพื่อความโปร่งใสว่าไม่ได้ไปกล่าวหาเขา ซึ่งจากการพูดคุยเขาก็ยอมรับใน 2 ข้อเท็จจริง คือ 1.เขาเป็นผู้รับติดตั้งป้ายของผู้สมัครอีกรายที่เป็นคู่แข่งขัน เราก็กังวล เพราะเขามีความเกี่ยวพันในฐานะผู้ติดป้าย 2.เขาก็ยอมรับว่าพูดจริง แต่ก็บ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้เจตนาจะทำแบบนั้น
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า สำหรับตนไม่ได้อยากจะดำเนินคดีกับประชาชนอยู่แล้ว เมื่อเขายอมรับข้อเท็จจริงต่อหน้าตำรวจแล้วและขออภัยกันก็ให้อภัย และตักเตือนว่าอย่าทำแบบนี้เลย ขอให้ทำการเมืองที่พูดตรงไปตรงมา หรือนำเสนอนโยบายที่ดีกว่า เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ต้องพูดปัญหาและทางออกอยู่แล้ว และควรจะยอมรับทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณตัดสินในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ซึ่งตนเองก็ใจกว้าง และใหัโอกาสเขา พร้อมเดินหน้าทำงานต่อไป
“เราในฐานะที่เราวิพากษ์วิจารณ์กับการทำงานที่เกิดขึ้น เชื่อว่าจันทบุรีไปได้ไกลกว่านี้ด้วยนโยบายของเรา เราก็ยอมรับถ้านโยบายของเราจะถูกวิพากษ์วิจารณ์กลับมาเหมือนกัน และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ” นายวิโรจน์ กล่าว
ส่วนจะทำให้ผู้สมัครของพรรค โดยเฉพาะพื้นที่บ้านใหญ่จะใจเสียหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ไม่เลย เพราะเราก็แข่งขัน อย่างที่ตนโดน วันรุ่งขึ้นก็เดินหน้าหาเสียงต่อไป เพราะเราเชื่อว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง และนำเสนอทางออกของประชาชนแต่ละจังหวัด เช่น จันทบุรีบริหารแบบเดิมๆ มา 28 ปี จึงอยากให้ชาวจันทบุรีได้ตัดสินใจว่าจะเอาแบบเดิม หรือจะเอาแบบใหม่ เพื่อให้วันที่ 1 ก.พ.ได้ตัดสินใจ