เรียกว่าสมกับเป็นญี่ปุ่นจริงๆ เมื่อชายรายหนึ่งถูกไล่ออกจากงาน หลังถูกจับได้ว่าแอบหนีไปฟิตเนสมากถึง 633 ครั้ง
เรื่องราวดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากสื่อดังอย่าง NHK ที่ระบุว่า หัวหน้างานวัย 55 ปีชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ถูกไล่ออกจากงานในช่วงวันคริสต์มาส ซึ่งชายคนดังกล่าวทำงานอยู่ที่กองพัฒนาเมือง ของเมืองมัตสึยามะ ในภูมิภาคชิโคคุ โดยเขามักมีพฤติกรรมชอบแอบหนีไปฟิตเนสในเวลางาน
ทว่าเจ้าตัวไม่ได้ไปเพื่อออกกำลังกายแต่อย่างใด แต่กลับอ้างว่าเขามีอาการชาที่บริเวณแขน เลยไปยืดเส้นที่ฟิตเนส และหลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จสิ้น ก็ไปแช่น้ำในออนเซ็นเพื่อบรรเทาอาการชา
เมื่อถูกหน่วยงานต้นสังกัดสอบถาม เขาก็ยอมรับกับการกระทำของตนเองอย่างเต็มที่ พร้อมบอกว่า “ผมทำเกินไป และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก” ก่อนที่จะถูกไล่ออกในวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา
หลังจากที่ได้รับการแจ้งเบาะแส เทศบาลเมืองมัตสึยามะได้เริ่มการสืบสวนการไปฟิตเนสของชายคนนี้อย่างละเอียด ก่อนจะพบว่าเขาทำสิ่งมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 โดยหัวหน้างานรายนี้แอบออกจากที่ทำงานไปฟิตเนสรวมกันมากถึง 633 ครั้ง รวมเวลาที่หายไปมากกว่า 658 ชั่วโมง
และเมื่อคิดตามเงินเดือนของเขา การไปเข้าฟิตเนสของเขาทำให้เมืองต้องเสียเงินไปกว่า 1.76 ล้านเยน หรือราวๆ 390,000 บาท ซึ่งทางเมืองต้องการให้เขาชดใช้คืน และตัวเขาเองก็ยืนดีที่จะจ่าย
นอกจากนี้ ทางเมืองยังสั่งลงโทษผู้บังคับบัญชาของชายคนนี้อีก 4 คนอีกด้วย ขณะที่ทางนายกเทศมนตรีเมืองมัตสึยามะ ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชนเกี่ยวกับประเด็นนี้ และให้คำมั่นว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
อ้างอิง : mustsharenews.com