ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากเหตุการณ์ น.ส.สุจิตรา อายุ 31 ปี อยู่บ้าน ม.5 ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้ถูกนายธนกฤต อายุ 37 ปี อยู่บ้าน ซอยวัดโพธิ์ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นอดีตสามี ซึ่งอยู่กินกันมา กว่า 2 ปี โดยมีลูกติดฝ่าย น.ส.สุจิตรา จำนวน 2 คน คือ ด.ญ.เอ และ ด.ช.บี อยู่ร่วมชายคาในบ้านเช่าหลังเดี่ยวชั้นเดียว ม.8 ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง ปากทางเขาบ้านช่องมุด และตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกันมา ก็เกิดมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง
จนล่าสุดที่เกิดเหตุทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือจนเลือดตกยางออก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 67 ซึ่งครั้งนี้ทำให้ทั้งสองต้องแยกทางกัน และเป็นเรื่องไปราว เมื่อทางฝ่าย น.ส.สุจิตรา ถูกตีด้วยสาก และแก้ว ซ้ำโดนชกต่อยเตะสะบักสะบอม ในขณะ นางจันทร์เพ็ญ อายุ 49 ปี อยู่บ้าน หมู่ 5 ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.สุจิตรา เข้าห้ามปราบก็ได้รับบาดเจ็บไปด้วย และทั้งสองก็ได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ไว้
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มกราคม 68 ที่ผ่านมา น.ส.สุจิตรา ได้อาศัยรถบรรทุกน้ำมัน ของคนใกล้บ้าน ขึ้นมายังกรุงเทพฯมาพบกับ “กัน จอมพลัง”พร้อมนำคลิปเหตุการณ์ที่ทะเลาะตบตีกันเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 67 มาเป็นหลักฐาน เพื่อร้องขอให้ช่วยเหลือเนื่องจาก ถูกนายธนกฤต อดีตสามี ข่มขู่จะทำร้ายทั้งตนและครอบครัว จนเป็นข่าวดังคึกโครม
จนเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 14.30 น. ทาง พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สืบสวน สภ.ปะทิว พร้อมกำลังหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปะทิว จ.ชุมพร จำนวน 4 คน นำหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ลงวันที่ 16 มกราคม 68 ที่ จ.21/2568 เดินทางไปรับตัวนายธนกฤต ชัยพัฒน์ อดีตสามีของ น.ส.สุจิตรา หญีตป้อม บริเวณศาลาของโกดังแห่งหนึ่ง พื้นที่ จ.สมุทรสาคร หลังได้ติดต่อขอมอบตัว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ในข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและลักทรัพย์
กระทั่งเวลา 21.30 น.ของวันเดียวกัน ทาง พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สืบสวน สภ.ปะทิว ได้ควบคุมตัวนายธนกฤต มาถึง สภ.ปะทิว ซึ่งอยู่ในสภาพสวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดคอกลมสีดำ โดยมีแมสและสวมหมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า มาตลอดตั้งแต่ไปรับตัว ก่อนจะนำตัวเข้าห้องสืบสวน สภ.ปะทิว เพื่อจะสอบปากคำในเบื้องต้น นายธนกฤต ได้ขอเปิดใจต่อผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม ว่า ตนเองยอมรับว่าทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา จริง ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ในส่วนที่ทำร้ายลูกเลี้ยงนั้น ตนเองขอปฏิเสธ และส่วนที่แม่อดีตภรรยา ได้แจ้งความและให้ข่าวนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้าย แต่ขณะที่ตนเองทะเลาะกับอดีตภรรยา ถึงลงไม้ลงมือนั้น ก็พลาดท่าไปถูก อดีตแม่ยายที่เข้ามาห้ามปราบแค่นั้น ไม่ได้จงใจที่จะทำร้ายโดยตรง
โดย นายธนกฤต บอกว่า การที่ตนเองทะเลาะเบาะแว้งกับ น.ส.สุจิตรา บ่อยๆก็มีประเด็นมาจาก ตนเองยอมรับว่าตกงาน ไม่มีงานทำหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว จนทำให้เกิดความระแวงและหึงหวงตัวอดีตภรรยา ซึ่งมักแต่งตัวสวยไปทำงานนอกบ้าน และหลังจากเกิดเหตุรุนแรงจนต้องหนีจากบ้าน ออกมานั้น ก็ไม่ได้คิดว่าจะลักรถ จยย.แต่อย่างใด เพราะคิดว่าตนเองก็มีสิทธิในรถ จยย.เช่นกันเพราะตนเองก็เคยช่วยผ่อนรถอยู่หลายงวด และตนเองก็ได้ส่งรถกลับคืนมาให้หลังจากที่เอาไปไม่กี่วัน
ซึ่งนายธนกฤต ยังกล่าวว่า ส่วนในเรื่องของการโพสต์ข่มขู่นั้น ตนเองยอมรับว่าก็โพสต์อยู่แบบนั้น ทุกครั้งที่ทะเลาะกันและไม่ได้คิดว่าจะลงมือทำจริงๆ เพราะตนเองก็รักฝ่ายหญิง และไม่ได้อยากจะทำร้าย และที่ผ่านมาก็ยังติดต่อกันกับอดีตภรรยาตลอดและเมื่อ วันที่ 4-6 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็ยังออกไปหาเจอกันด้วย ที่ อ.ท่าแซะ แต่ไม่คิดว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนเองจึงขอความเป็นธรรม ในบางเรื่องที่ถูกกล่าวหา และยอมรับผิดที่ทำไปในเรื่องที่ตนเองกระทำจริงอย่างสำนึกผิด
ต่อมาทาง พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สืบสวน สภ.ปะทิว ได้นำตัวเข้าไปภายในห้องเพื่อสอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
.