ผู้เขียน | นายพล |
---|
อีซูซุ 2.2 แมคซ์ฟอร์ซ
บุคลิกใหม่ปิกอัพเมืองไทย
แม้ว่าตลาดรถปิกอัพ ปี 2567 จะปิดฉากลงแบบไม่สวยนัก เพราะยอดขายลดฮวบลงไปกว่า 40% จากปัญหาไฟแนนซ์ไม่ปล่อยสินเชื่อ จากสถานการณ์หนี้สินครัวเรือนของไทยพุ่งสูงขึ้น
แต่ปัญหาดังกล่าว ไม่ได้ทำให้ค่ายอีซูซุชะลอการพัฒนารถปิกอัพแต่อย่างใด
ในทางตรงข้ามกลับอาศัยจังหวะนี้ เดินหน้าขยายฐานลูกค้าเพิ่ม โดยการเปิดตัว เครื่องยนต์ดีเซล ใหม่ 2.2 Ddi MAXFORCE (ดีดีไอ แมคซ์ฟอร์ซ)
มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ REV TRONIC ใหม่ และมีค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน
ทั้งในรถอีซูซุ ดีแมคซ์ และ มิว-เอ็กซ์ รถปิกอัพดัดแปลง หรือพีพีวี และเครื่อง 3.0 Ddi MAXFORCE ใหม่ สำหรับกลุ่มที่ต้องการเครื่องยนต์กำลังสูง ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 558,000-1,284,000 บาท
ส่วน มิว-เอ็กซ์ ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 1,194,000-1,771,000 บาท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดกิจกรรมเพรสทริป พาสื่อมวลชนกว่า 27 คน เดินทางไปทดลองขับจากด่านชายแดนโหย่วยี่ เมืองหนานหนิง มณฑลกวางสี ประเทศจีน ไปเมืองฮาลอง ก่อนขับเข้ากรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม รวมระยะทางประมาณ 360 กว่า กม. สภาพเส้นทางมีทั้งในเมืองการจราจรคับคั่ง เส้นทางขึ้นลงเขา ทางโค้งคดเคี้ยว และทางตรงบนถนนระหว่างเมือง
เมื่อลองได้สัมผัสสมรรถนะ เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.2 Ddi MAXFORCE พบว่าจุดเด่นคือการเร่งแซงได้รวดเร็วทันใจ จากพละกำลังสูงขึ้น แต่กลับประหยัดน้ำมันที่มากขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ
แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะผ่านการทดสอบตามมาตรฐานอีซูซุเป็นระยะทางเทียบเท่า 2,200,000 กิโลเมตร จนทำให้อีซูซุมั่นใจว่าเครื่องยนต์นี้มีความแรง ทนทาน และประหยัดน้ำมันเหมาะสมกับตลาดมากที่สุดในขณะนี้ ก่อนจะกล้าประกาศศักดาออกมาได้ขนาดนี้
ที่สำคัญ เครื่องยนต์บล็อกนี้ เมื่อทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic ทำให้อัตราทดต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว ตอบสนองไว แม่นยำ แต่กลับให้ความรู้สึกนุ่มนวลกว่ารถปิกอัพทั่วไป สิ่งที่ตามมาคือสู่การขับขี่ที่สนุกขึ้น
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร ให้พลังแรงถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที การออกตัวเร่งแซงเร็วขึ้นกว่าเครื่อง 3.0 แรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้นถึง 56% แต่กลับประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิมสูงสุด 10.7%
มีที่มาจากการเปลี่ยนยกชุด ทั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ แรงดันสูงถึง 250 MPa. และ ECM หรือระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ แบบมัลติ-คอร์ (MULTI-CORE) ประสิทธิภาพสูง ใหม่ E-VGS เทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ใหม่ ห้องเผาไหม้แบบ ไฮ สเวิร์ล (High Swirl) เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์แบบขึ้น ใหม่ ลูกสูบแบบแรงเสียดทานต่ำพิเศษ และเสื้อสูบแบบขึ้นรูปแกร่งพิเศษ
แถมยังมาพร้อมกับระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์ใหม่แบบ ไฮ-โฟลว์ (Hi-flow)
ทำให้ดูเหมือนว่า เป็นบุคลิกใหม่อีกแบบของอีซูซุเลยทีเดียว
นอกจากนี้ อีซูซุยังได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ ใหม่ 3.0 Ddi MAXFORCE พลังใหม่ โดยใช้เป็นรถนำขบวนและปิดขบวนคาราวานสื่อมวลชน 9 คัน รวมเป็นทั้งหมด 11 คัน
สำหรับเครื่อง 3.0 ให้พลังแรงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ด้วย ECM ใหม่ แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูงเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้งานที่ต้องการกำลังสูงเป็นพิเศษ
อีกทั้งยังเพิ่มไลน์อัพใหม่กับ มิว-เอ็กซ์ รุ่น RS เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE อีซูซุ วีครอส 4×4 4 ประตู เกรด ZP เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE และอีซูซุ ดีแมคซ์ สปาร์ค 4×4 เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE
มาพร้อมสีใหม่ เทา เอลบรุส โอเพค (Elbrus Grey Opaque) ในอีซูซุ ดีแมคซ์ทุกรุ่น
การมาของ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ทั้ง 2.2 Ddi MAXFORCE และ 3.0 Ddi MAXFORCE ครั้งนี้ ยังมาพร้อมกับการปรับปรุงอีกหลายด้าน ทั้งความเงียบในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดี
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ช่องวางแก้วน้ำ ตะขอแขวนแบบพับได้บริเวณด้านหลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้า มือจับสำหรับจับเวลาขึ้นลงรถ ช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง ช่วยเสริมความอเนกประสงค์ แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจในรายละเอียดได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญเบาะหนังสัมผัสนุ่มนวลในรุ่น ดับเบิลแค็บ 4 ประตู ทำให้การเดินทางในประเทศเวียดนามกำลังเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว จึงมีเส้นทางกำลังทำถนน ผิวถนนขรุขระ จำนวนมากมาย จึงไม่รู้สึกเพลียเหมือนกับการนั่งรถปิกอัพรุ่นเก่าๆ ในอดีต ถ้าเจอสภาพถนนแบบนี้ ความรู้สึกอ่อนเพลียมักจะเกิดขึ้นในการเดินทางเสมอ
และยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมากมาย เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติด้านหน้าพร้อมสัญญาณไฟเตือนกระจกด้านหน้าคนขับ ระบบเบรกอัตโนมัติป้องกันการชนด้านหลัง ระบบเตือนออกนอกเลน เป็นต้น
โดยภาพรวมแล้ว การพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ของอีซูซุครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าอีซูซุ ที่ต้องการเครื่องยนต์ใหญ่กว่ารุ่น 1.9 แต่เล็กกว่า 3.0
เป็นการเติมเต็ม เพื่อให้ครบเครื่องเรื่องปิกอัพ
ให้สมฐานะกับการเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถกระบะได้อย่างแท้จริง