"คารม" เตือนมิจฉาชีพหลอกผู้สูงวัย ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขายประกัน ชวนลงทุน สูญเงินนับไม่ถ้วน แนะบุตรหลานดูแลใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 68 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีจำนวนมากขึ้น มีการเตรียมการเป็นอย่างดี และทำกันเป็นขบวนการเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินจากทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น เอสเอ็มเอส หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมุ่งเป้าหมายหลอกลวงไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้เกษียณเพิ่มขึ้น ด้วยวิธีการต่าง ๆ อาทิ การหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยหลอกให้ซื้อขายสินค้าแต่ไม่มีเจตนาที่จะส่งสินค้าให้จริง การหลอกลงทุน โดยหลอกชักชวนให้ลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น ที่ไม่มีอยู่จริง การหลอกให้รัก โดยหลอกเข้ามาตีสนิท สร้างความสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อหวังเอาทรัพย์สิน
นายคารม กล่าวอีกว่า การหลอกให้กลัว หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แจ้งว่าท่านเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หลอกให้โอนเงินให้ตรวจสอบ การหลอกขายยาและอาหารเสริม โดยหลอกขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือยา อ้างว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ซึ่งอาจไม่ได้ผลจริงและเป็นอันตราย การหลอกขายประกันสุขภาพ โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันสุขภาพ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือขายประกันที่ไม่เป็นความจริง หรือการหลอกให้รับสวัสดิการผู้สูงอายุ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการที่ดูแลเรื่องบำนาญหรือสวัสดิการผู้สูงอายุ และขอข้อมูลส่วนตัวหรือขอให้โอนเงินเพื่อดำเนินการ ส่งผลทำให้ผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงทางออนไลน์เพิ่มขึ้น
นายคารม กล่าวอีกว่า ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในรูปแบบดังกล่าว และขอให้บุตรหลานคอยสอดส่องดูแลผู้สูงวัยในครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงโดยมิจฉาชีพที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบและป้องกันตนเอง เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1. นำเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา เช็กใน กูเกิ้ล ตรวจสอบประวัติเบอร์ผู้ใช้ 2. ค้นหาใน เฟซบุ๊ก หากเบอร์โทรนั้นเคยผูกกับบัญชีเฟซบุ๊ก 3. ค้นหาทาง ไลน์ “เพิ่มเพื่อน” เลือกจาก “หมายเลขโทรศัพท์” ถ้าเบอร์โทรนั้นผูกกับไลน์ 4. โหลดแอปพลิเคชัน ฮูส์คอล เพื่อช่วยในการค้นหาตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ หรือเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ โดยแอปจะแจ้งเตือนได้ว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์ของใคร
นายคารม กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น หากประชาชนได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ สถานีตำรวจในพื้นที่ และสำหรับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บนเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชม.