บีวายดี ซัสโก้ บียอนด์ รถ EV เราคือเบอร์หนึ่ง
SUB_NUM January 20, 2025 08:44 PM
คอลัมน์ : สัมภาษณ์พิเศษ

จากมุมมองธุรกิจต้องการมองหาสิ่งที่จะมาทดแทนธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพลังงาน เชื้อเพลิงฟอสซิล บวกกับเทรนด์ธุรกิจเริ่มเปลี่ยน พลังงานทดแทนถูกหยิบยกและนำมาพัฒนาเพื่อให้เกิดการใช้จริงมากขึ้น

และแน่นอน ทีมผู้บริหารธุรกิจพลังงานอย่างกลุ่มซัสโก้ ไม่ยอมตกขบวนที่จะมองหาธุรกิจที่เข้ามาเสริม/สร้างธุรกิจหลัก “พงศธร ฉัตรนะรัชต์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ บียอนด์ จำกัด ในเครือบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) ได้มาเล่าถึงที่มาที่ไปและแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ไอเดีย ที่ว่า “ซัสโก้ ต้องการทำอะไรที่ไม่ใช่ธุรกิจเดิม เพื่อมาทดแทน หรือใกล้เคียงกับธุรกิจที่มีอยู่” และหนึ่งในธุรกิจใหม่ที่ถูกขับเคลื่อนและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม คือ ธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อย่าง บีวายดี ซัสโก้ บียอนด์ จะเป็นอย่างไรไปติดตามกัน

จุดเริ่มต้น ซัสโก้ บียอนด์

ย้อนกลับไป กลุ่มซัสโก้ เราเริ่มจากธุรกิจการขายถ่าน, น้ำมัน ในฐานะบริษัทด้านพลังงานมาเกือบครึ่งศตวรรษ จนเมื่อช่วง 3-4 ปีก่อนหน้า เทรนด์ของธุรกิจพลังงาน “เชื้อเพลิงฟอสซิล” เริ่มเปลี่ยน เริ่มเติบโตลดลง และเชื่อว่าอนาคตอาจจะไม่มีตลาด จึงเป็นที่มาว่า ซัสโก้ต้องทำอะไรที่จะมาทดแทน และอะไรที่ไม่ใช่ธุรกิจเดิม แต่ใกล้เคียง

จึงจะเห็นว่ามีการขยายไปยังธุรกิจโซลาร์ ไฟฟ้า พลังงานลม สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การปล่อยเช่าจักรยานยนต์อีวี ฯลฯ ในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ด้วย

ลูกค้าไม่ได้หายไป

แน่นอนว่าปัจจุบัน หากมีคนเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน นั้นหมายความว่ารถยนต์ที่ต้องเติมน้ำมันจะหายไป 1 คัน ดังนั้นแทนที่จะเสียลูกค้าไป ซัสโก้จึงหันมาขายรถยนต์ไฟฟ้า และสร้างอีโคซิสเต็มให้เกิด

สำหรับบีวายดี (BYD) นั้นมาจาก เดิมซัสโก้ตั้ง บริษัท บียอนด์ จำกัด นั้นหมายความว่า “อะไรที่ บียอนด์ ซัสโก้เคยทำ บริษัทนี้จะทำ” ขึ้นมาเพื่อทดแทนบริษัทแม่ (ซัสโก้) เคยทำ แต่ขณะเดียวกัน ซัสโก้ก็ยังโตต่อเนื่องอย่างแข็งแรง

เราอยากจะหาบริษัทใหม่ ๆ ที่จะโตให้ทันกับซัสโก้ และในอีก 10 ปี ทำให้การดำเนินธุรกิจเข้ามาใกล้เคียงกับบริษัทแม่

ทำไมต้อง BYD

วันนี้รถยนต์ไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของโลกคือใคร ?

แน่นอนมีแค่ TESLA และ BYD เท่านั้น แต่หากจะมองว่าใครจะมาแทน “โตโยต้า” ในอนาคตที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า แน่นอนว่าต้อง BYD

ถ้าเราอยากจะค้าขายกับอะไร ซัสโก้ ก็อยากที่จะเป็นเบอร์หนึ่ง จึงเป็นที่มาตรงนี้

แน่นอนว่าเราเลือก “แบรนด์เบอร์หนึ่ง” ก่อน เพราะเราคิดว่าเราอยากเป็นเบอร์หนึ่ง

ขึ้นแท่น ดีลเลอร์รายใหญ่ (สุด)

แน่นอนว่าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้น ซัสโก้ ได้ลงทุนทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เป็นเบอร์หนึ่ง

จนทำให้ วันนี้ ซัสโก้ บียอนด์ เป็นดีลเลอร์ใหญ่เบอร์หนึ่งของ BYD มี 10 สาขา และเป็นดีลเลอร์แบรนด์พรีเมี่ยม เดนซ่า (DENZA) ในเครือ BYD เป็นสาขาที่ 11

เมื่อเราเลือกแบรนด์มาแล้ว ซัสโก้ เป็นดีลเลอร์รายใหญ่สุด เราต้องการขายรถให้ได้มากที่สุด และบริการหลังการขายต่อเนื่องให้ครบ

ซัสโก้อยากต่อยอดให้ครบ นี่คือคอนเซ็ปต์ที่เราสร้าง ซัสโก้ บียอนด์ ขึ้นมาเพื่อมาขาย BYD

“นึกถึง BYD นึกถึง EV นึกถึง ซัสโก้ บียอนด์”

มูลค่าการลงทุน

สำหรับโชว์รูม บีวายดี ซัสโก้ บียอนด์ ได้ใช้งบประมาณไปกว่า 300 ล้านบาท แต่ไม่รวมค่าที่ดิน เพราะพื้นที่บางส่วนอยู่บนพื้นที่ของซัสโก้ ซึ่งพัฒนาจากพื้นที่ในปั๊มน้ำมันมาทำโชว์รูม และบางส่วนก็เป็นการเช่าพื้นที่

ขณะที่โชว์รูมเดนซ่า ลงทุนเยอะเพราะมีทั้งอู่ซ่อมสีและตัวถัง ศูนย์เทคนิคคอลเซ็นเตอร์ เฉพาะพื้นที่น่าจะ 300 ล้าน และมีการรีโนเวตอีก 50 ล้านบาท

ธุรกิจเป็นดีลเลอร์รถยนต์ ซัสโก้ทำจริง ๆ คือเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2566

ซัสโก้ทำมาจนสามารถขึ้นเบอร์หนึ่งในเวลาแค่ปีนิด ๆ

หวังขายหมื่นคันในอีก 2 ปี

ผมคาดหวังว่า ยอดขายของบีวายดี ซัสโก้ ใน 2 ปี จะต้องขายแตะหลัก 10,000 คันให้ได้ ถ้าตลาดโดยรวมกลับคืนมาสู่สภาพปกติ

สำหรับเพอร์ฟอร์มานซ์ของเราถือว่ายอดขายดี โตตาม BYD ถ้า BYD มีส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ของ 800,000 คัน

เท่ากับซัสโก้มียอดขายที่ 40,000 คัน ซัสโก้ บียอนด์ มี 10โชว์รูม ใน 100 โชว์รูมของ BYD คือ 10% ของ 40,000 คัน เท่ากับ 4,000 คัน

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของบีวายดี ซัสโก้ บียอนด์ ต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดของยอดขาย BYD ไว้ที่อย่างน้อยปีละ 10-12% ให้ได้ วันนี้ BYD ยังมีรถไม่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ แต่ถ้ามีสินค้าครอบคลุม

ก็ต้องดูว่า BYD จะไปกินส่วนแบ่งในตลาดเท่าไร และแสดงว่าซัสโก้ บียอนด์ จะมีส่วนแบ่งอยู่ในตลาดรถยนต์ 1.2-2% ของตลาดรถยนต์โดยรวม

ตลาดรถยนต์มียอดขาย 800,000 คัน เท่ากับ BYD มีส่วนแบ่งทางการตลาด 15% ของซัสโก้ บียอนด์ ต้องมีส่วนแบ่ง 1.5% ของตลาดรวม เท่ามียอดขายราว 12,000 คันต่อปี ดังนั้น ยอดขายซัสโก้ บียอนด์ ต้องมี 12,000 ล้านบาท ขณะบริษัทแม่ ซัสโก้ มีรายได้ราว ๆ 30,000 กว่าล้านบาท และยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ดังนั้น หน้าที่ของซัสโก้ บียอนด์ คือทำให้ทุกอย่างที่ในกลุ่มนี้ไปแซง 30,000 ล้านให้ได้ ภายใน 10 ปี

บริการลูกค้าคือหัวใจ

ซัสโก้ นำ Knowledge ที่มีกว่า 46-47 ปี ใส่เข้าไปเพื่อเป็นระบบในการดูแล CRM ที่ดี ไม่ใช่เฉพาะแค่เป็นดีลเลอร์ แต่เริ่มต้นที่หากคนตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ทำไมต้องมาที่ ซัสโก้ บียอนด์

แน่นอนต้องที่โชว์รูมที่ดี บริหารที่ดีแล้ว เรามองต่อไป เมื่อลูกค้าออกรถจะต้องมีลีสซิ่ง เรามี ซัสโก้ บียอนด์ ลิสซิ่ง, หากรถเสียหาย มีศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง 3 แห่ง และซัสโก้ยังร่วมมือกับบริษัทประกันภัย ทำ ซัสโก้ บียอนด์โพรเทก เพื่อดูแลประกันต่อ

ลูกค้าเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันไปเป็นไฟฟ้า ซัสโก้จึงได้มีการลงทุนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 100 แห่งในปีที่ผ่านมา เรียกว่า ซัสโก้ บียอนด์ เราจะดูแลลูกค้าตั้งแต่ก่อนซื้อรถ ไปจนจบ จนขายรถยนต์คันเก่า เพื่อซื้อรถยนต์คันใหม่ ให้ “ครบวงจร”

คอนเซ็ปต์นี้คือ ลูกค้า 1 คนเหมือนกัน แค่เปลี่ยนพลังงานจาก “น้ำมัน” ไปเป็น “ไฟฟ้า” ดังนั้น บริษัทได้มีการลงทุนในส่วนของสถานีชาร์จไฟฟ้า

วันนี้ ซัสโก้ บียอนด์ อยากจะเข้าไปจับในจุดที่เทคโนโลยีเปลี่ยน อยากเป็นไม้แรก ๆ เพื่อค่อย ๆ สร้างอีโคซิสเต็ม วันนี้ผมว่าพร้อมแล้ว ถ้าจะเลือกซื้อรถยนต์อีวีของ BYD กับเรา อีโคซิสเต็มที่เราสร้างค่อนข้างครบ

เราไม่ได้อยากทำธุรกิจแค่ปีสองปีแล้วไป เพราะเรามองถึงอนาคต ที่เห็นในช่วง 1-2 ปีมานี้ คือเบบี้สเต็ป เพื่อไปสู่วันที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง จะเป็นอย่างไรต้องติดตาม

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.