กฤษฎีกา ไม่รู้ ใช้งบส่วนไหนเยียวยาปม ที่ดินอัลไพน์ โยนถามมหาดไทย ชี้ช่องออก พ.ร.บ.โอนที่ธรณีสงฆ์ แจง ทำกันบ่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ยาก
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคำวินิจฉัยการเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า แนวคำวินิจฉัยมีตั้งแต่ปี 2544 และหลักของคำวินิจฉัย คือ ที่ดินที่ได้มาโดยมรดกต้องทำตามที่เจ้าของมรดกกำหนด เมื่อต้องการให้ตกแก่วัดก็ต้องตกแก่วัด ซึ่งการเพิกถอนที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ ขอให้ไปถามจากกระทรวงมหาดไทยว่า จะหาทางแก้ไขเยียวยาให้กับประชาชนที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างไร
ขณะเดียวกันต้องตรวจสอบว่า มีการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ เพราะจริงๆ แล้ว เราต้องเสียเงินชดเชยให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ได้มาโดยสุจริต ต้องไปดูว่าคำสั่งทางปกครองออกมาและถูกยกเลิกไปนั้นชอบหรือไม่ และประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อถามถึงงบประมาณที่จะนำมาเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ นายปกรณ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะนำมาจากส่วนใด แต่หากจำเป็นจะต้องแก้ไขเยียวยาก็สามารถของบประมาณจากรัฐบาลได้
เมื่อถามย้ำว่าใช้งบปกติ ไม่จำเป็นต้องของบกลางจากรัฐบาลใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า งบปกติน่าจะไม่มี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งงบไว้ เนื่องจากไม่มีใครคิดว่าจะเกิด จึงต้องหารือกับสำนักงบประมาณว่า มีแหล่งเงินจากที่ใดบ้าง อย่างไรก็ตาม แม้วงเงินในการเยียวยาจะสูง แต่ตนคิดว่ามีหลายวิธีที่จะแก้ไข ซึ่งต้องรอ รมว.มหาดไทย และอธิบดีกรมที่ดินมาแนะนำว่า จะหาทางแก้อย่างไร
นายปกรณ์ ส่วนประเด็นปัญหาด้านกฎหมายมีเพียงว่า ถ้าคำสั่งทางปกครองไม่ชอบก็เพิกถอนเสีย และหากเพิกถอนคำสั่งทางปกครองไปแล้ว และมีผลกระทบต่อบุคคลที่สุจริตก็ต้องเยียวยากัน ในทางกฎหมายมีเพียงแค่นั้น ส่วนในทางบริหารก็ไปว่ากัน
เมื่อถามว่าความเห็นของกฤษฎีกา เมื่อปี 2545 ที่เสนอให้ออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนเป็นที่ดินเอกชนสามารถทำได้หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า การโอนที่ดินซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ต้องเป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร ซึ่งก็แล้วแต่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยจะพิจารณาว่าทางใดเหมาะสม ควรรอถาม รมว.มหาดไทย จะเหมาะสมกว่า
เมื่อถามว่า การออกพ.ร.บ.ที่ดิน จะยากกว่าการจ่ายเงินชดเชยหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ไม่ยาก พ.ร.บ.โอนที่ธรณีสงฆ์ ทำกันบ่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่เป็นข่าว