ท็อป ขอสูงวัยรับเงินหมื่นเฟส 2 ใช้เงินคุ้มค่า จ่ออบรมผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิฯ ค่าตอบแทนสูง

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 21 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุได้ดำเนินโครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน ปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดการอบรมหลักสูตรผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ เพื่อ หวังให้ผู้ผ่านการอบรมทำหน้าที่ในการปกป้อง คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ ช่วยเหลือดูแล และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ครอบคลุมทั้ง 5 มิติ ได้แก่ มิติสังคม เศรษฐกิจ สุขภาพ สภาพแวดล้อม และเทคโนโลยี นับว่าเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ และเป็นการชะลอ และป้องกันการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงในผู้สูงอายุ โดยหลักสูตรดังกล่าวได้รับการรับรองจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง พม. ซึ่งต้องผ่านการอบรม จำนวน 240 ชั่วโมง (ประมาณ 50 วัน) แบ่งเป็นภาคทฤษฎี 90 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 60 ชั่วโมง และการฝึกงาน 90 ชั่วโมง อีกทั้งจะได้รับค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ 10,000 บาทต่อเดือน

สำหรับปี 2568 กระทรวง พม. โดย กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้ตั้งเป้าในการอบรมหลักสูตรผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุไว้จำนวน 307 คน ทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น 6 ภูมิภาค ได้แก่ 1.ภาคเหนือ 9 จังหวัด 2.ภาคกลาง 21 จังหวัด 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด 4.ภาคตะวันออก 7 จังหวัด 5.ภาคตะวันตก 5 จังหวัด และ 6. ภาคใต้ 14 จังหวัด การจัดอบรมหลักสูตรดังกล่าวกระทรวง พม. ได้มอบหมายให้ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ (สสว.) 6 แห่ง เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดอบรมร่วมกับสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ได้แก่ 1. สสว. 2 ชลบุรี ร่วมกับ ทีมวิทยากรหลักจากศูนย์ส่งเสริมฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ สภากาชาดไทย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี 2.สสว. 5 ขอนแก่น ร่วมกับ ทีมวิทยากรหลักจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีจังหวัดขอนแก่น 3.สสว. 6 กาฬสินธุ์ ร่วมกับ ทีมวิทยากรหลักจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี

4.สสว. 7 ลพบุรี ร่วมกับ ทีมวิทยากรหลักจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จังหวัดลพบุรี 5.สสว. 9 เชียงใหม่ ร่วมกับทีมวิทยากรหลักจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดเชียงใหม่ 6. สสว. 10 สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ ทีมวิทยากรหลักจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โครงการดังกล่าว คาดว่าจะสามารถดูแลผู้สูงอายุได้หลายแสนคนโดยเฉพาะในชุมชน และเริ่มจัดการอบรมไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา จะสิ้นสุดการอบรมในวันที่ 10 มีนาคม 2568 หลังจากนั้นจะมีการปัจฉิมนิเทศให้กับผู้ผ่านการอบรมจำนวน 3 วัน ก่อนปฏิบัติหน้าที่จริงในเดือนเมษายน 2568 นี้

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้สูงอายุผู้มีสิทธิรับเงินหมื่น ในวันที่ 27 ม.ค. ที่ได้รายงานให้กับกระทรวงการคลัง ว่า ในขณะนี้ที่เราได้เสนอให้กับกระทรวงการคลังมีประมาณ 4 ล้านกว่ารายชื่อ ซึ่งจะเป็นรายชื่อคนที่ลงทะเบียนกับแอพพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละครั้งที่รัฐบาลเสนอจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ในครั้งนี้ทางกระทรวงการคลังก็เป็นผู้กำหนดเงื่อนไขเช่นกัน โดยอาศัยฐานข้อมูลที่ทางกระทรวงพม.เราให้ โดยทางกระทรวงการคลังก็จะนำไปดูว่ามีคนไหนผ่านเกณฑ์บ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า 4 ล้านกว่ารายชื่อนี้คือเตรียมตัวรับเงินได้เลยใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า เตรียมตัวได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอฝาก สำหรับท่านที่รู้ตัวว่าอยู่ในข่ายจะได้รับเงินหมื่นนี้ ขอให้ใช้เงินให้คุ้มค่า ขอให้ระวังมิจฉาชีพ เพราะว่าเมื่อท่านได้รับเงินตรงนี้ไปแล้วมิจฉาชีพก็จะจ้องกันตาเป็นมัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงกลุ่มคนต่างๆที่จะเข้ามาขอใช้เงิน ประเด็นที่รัฐบาลมอบให้นั้นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตหรือเสริมอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในกลุ่มต่างๆ ก็อยากจะขอฝากเป็นกำลังใจให้กับกลุ่มผู้ได้รับเงินว่าขอให้ใช้เงินอย่างคุ้มค่า