วันที่ 22 มกราคม 2568 เวลา 08.30 น. ที่ เรือนจำกลางชลบุรี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิดในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 พร้อมด้วยนายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และนายธนนท์ พรรพีภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
โดยมี นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายบริหารและฝ่ายพัฒนา และนายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี ผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เขต 2 ร่วมให้การต้อนรับ
โดย พันตำรวจเอก ทวี ร่วมกิจกรรมเยี่ยมญาติใกล้ชิด เพื่อให้กำลังใจและแนวทางการดำเนินชีวิตให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ โดยกล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขและฟื้นฟูผู้กระทำผิดโดยสนับสนุนให้ครอบครัว มีส่วนร่วมในการพัฒนาพฤตินิสัย ซึ่งแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรมสำหรับนโยบายสำคัญประการหนึ่ง คือ ความยุติธรรมสำหรับทุกคนหรือความยุติธรรมนำประเทศ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย
รวมไปถึงผู้กระทำผิดที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การส่งเสริมด้านการพัฒนาพฤตินิสัยที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขและฟื้นฟูผู้กระทำผิด รวมถึงการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ประเด็นสำคัญเหล่านี้เป็นสิ่งที่กระทรวงยุติธรรมได้ให้ความสำคัญตลอดมา เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างยั่งยืน
จากนั้น พันตำรวจเอก ทวี ได้มอบจักรยานให้กับบุตรผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฝีมือจากผู้ต้องขังที่ได้รับการฝึกทักษะวิชาชีพการประกอบรถจักรยาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับบุตรของผู้ต้องขังและนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ทั้งนี้ เรือนจำกลางชลบุรีเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงขนาดใหญ่ ดำเนินการบำบัดแก้ไขฟื้นฟู พัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง ทั้งด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านความคิด ด้านความรู้ และถือเป็นเรือนจำอุตสาหกรรม เพื่อดำเนินการพัฒนาผู้ก้าวพลาดให้ได้มีโอกาสฝึกทักษะด้านการทำงานกับสถานประกอบการและภาคธุรกิจจริงเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับคืนสู่สังคมและสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพภายหลังพ้นโทษได้
ซึ่งเรือนจำชั่วคราวบ้านบึง ในสังกัดเรือนจำกลางชลบุรี จัดให้เป็นสถานที่สำหรับเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยในการพัฒนาและส่งเสริมทักษะการทำงานในระบบอุตสาหกรรมที่สามารถปรับภารกิจการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้มีความยืดหยุ่นขึ้นและสอดคล้องกับกิจวัตรประจำวัน โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนเข้าฝึกทักษะการทำงานในระบบอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการประกอบรถจักรยาน ซึ่งปัจจุบันร่วมกับบริษัท มายจักรยาน จำกัด เพื่อนำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดซึ่งผู้ต้องขังจะสามารถนำความรู้และทักษะความชำนาญเหล่านี้ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวเมื่อภายหลังพ้นโทษได้และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก นอกจากนี้การทำงานดังกล่าวยังสร้างรายได้ให้แก่ผู้ต้องขังระหว่างต้องโทษและเก็บไว้เป็นทุนภายหลังพ้นโทษได้อีกด้วย