สธ. เปิด 5 จังหวัดจมฝุ่นพิษนานต่อเนื่องเกิน 2 วัน ‘กรุงเทพ’ ครองแชมป์พื้นที่สีแดง
เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) แถลงข่าวศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ กรณีฝุ่น PM2.5 ว่า วันนี้เป็นการแถลงข่าวครั้งแรกของศูนย์ข้อมูลฯ ตามที่มีปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างมากในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง รวมถึงผู้ที่ต้องทำงานกลางแจ้ง ปัจจุบันภาคส่วนต่างๆ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้กับประชาชนอยู่ ขณะเดียวกัน สธ. ได้เร่งสื่อสารเพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก
นพ.วรตม์ กล่าวว่า ภาพรวมของฝุ่น PM2.5 ยึดจากเกณฑ์ความเข้มข้นเฉลี่ยของฝุ่น PM2.5 ในช่วง 24 ชั่วโมง ข้อมูล ณ วันที่ 22 มกราคม 2568 แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มจังหวัด ดังนี้ 1.จังหวัดกลุ่มสีฟ้า คุณภาพอากาศดีมาก มีระดับความเข้มข้นของ PM2.5 ระหว่าง 0-15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่า ไม่มีจังหวัดใดอยู่ในกลุ่มนี้ 2.จังหวัดกลุ่มสีเขียว คุณภาพอากาศดี มีระดับความเข้มข้นของ PM2.5 ระหว่าง 15-25 มคก.ลบ.ม. รวม 11 จังหวัด แม่ฮ่องสอน สงขลา ปัตตานี สกูล ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พัทลุง นราธิวาส นครศรีธรรมราช ยะลา และตรัง 3.จังหวัดกลุ่มสีเหลือง คุณภาพอากาศปานกลาง มีระดับความเข้มข้นของ PM2.5 ระหว่าง 25-37.5 มคก.ลบ.ม. รวม 5 จังหวัด 4.จังหวัดกลุ่มสีส้ม คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีระดับความเข้มข้นของ PM2.5 ระหว่าง 37.5-75 มคก.ลบ.ม. รวม 51 จังหวัด และ 5. จังหวัดกลุ่มสีแดง คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีระดับความเข้มข้นของ PM2.5 ระหว่าง 75 มคก.ลบ.ม.ขึ้นไป รวม 9 จังหวัด“จะเห็นได้ว่าพื้นที่ที่เป็นจังหวัดสีส้มจะกระจุกตัวอยู่ในภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือบางส่วน และภาคตะวันตก สิ่งที่น่าสนใจคือจังหวัดที่มีความเข้มข้นเฉลี่ยของฝุ่น PM2.5 มากกว่า 75.1 มคก.ลบ.ม. ติดต่อกัน 2 วันขึ้นไป ได้แก่ เพชรบุรี สุโขทัย สระบุรี สมุทรสาคร และกรุงเทพฯ ซึ่งประชาชนจะต้องเริ่มประเมินสุขภาพตัวเอง เช่น มีอาการแสบตา มีอาการทางระบบหายใจ” นพ.วรตม์ กล่าวว่า
ด้าน นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดูแลสุขภาพในช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มเสี่ยง ต้องคำนึงถึงสุขภาพตั้งแต่มีค่าฝุ่นอยู่ที่สีเหลือง ค่า PM2.5 เฉลี่ยที่ 25.1-37.5 มคก.ลบ.ม. แนะนำให้ลดเวลาการออกกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัย แต่ถ้าฝุ่นเป็นสีแดง มีค่า PM2.5 เฉลี่ย 37.6-75 มคก.ลบ.ม. ควรงดออกกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยป้องกันตลอดเวลา อยู่ในห้องปลอดฝุ่น ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นภายในบ้าน และ 2.กลุ่มประชาชนทั่วไป ถ้าฝุ่นอยู่ในสีเหลือง ควรเลี่ยงออกกำลังกายกลางแจ้งบ้าง และเริ่มสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่ค่าฝุ่นอยู่ในสีส้ม หากพบอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ หากฝุ่นเป็นสีแดง ต้องปฏิบัติตัวเหมือนกับกลุ่มเสี่ยง
นพ.ธิติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กรมอนามัย แนะนำ 5 ข้อป้องกันฝุ่น PM 2.5 ฟุ้งทั่วเมือง คือ “เช็ก ใช้ เลี่ยง ลด ปิด” ดังนี้ เช็กค่าฝุ่นจากแอพพลิเคชัน Air4Thai หรือ Life Dee ก่อนออกจากบ้าน, ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้ง เช่น หน้ากาก N95, เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและเฝ้าระวังสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง, ลดกิจกรรมก่อฝุ่น เช่น การจุดธูป การปิ้งย่าง การเผา การสูบบุหรี่ การใช้รถส่วนตัว รวมถึงตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำ และ ปิดประตู-หน้าต่างให้มิดชิด หมั่นทำความสะอาดบ้าน-ที่พัก หรือทำห้องปลอดฝุ่น